ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #อ้างสกัดอบจ. ! ช่อ บอกสินบนน้องธนาธร จึงเกิด

#อ้างสกัดอบจ. ! ช่อ บอกสินบนน้องธนาธร จึงเกิด

10 December 2020
849   0

วันที่ 2 ธ.ค. “เดอะทรูธ” (The Truth) ซึ่งอ้างว่าเป็นเว็บไซต์ข่าวแต่ไม่ปรากฏชื่อผู้ผลิตเนื้อหาหรือสถานที่ติดต่อ เผยแพร่คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบฯ ลงวันที่ 27 พ.ย. 2562 ซึ่งพิพากษาจำคุกนายประสิทธิ อภัยพลชาญ อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และนายสุรกิจ ตั้งวิทูวนิช นายหน้าค้าที่ดิน ในข้อหาเรียกรับสินบนและปลอมแปลงเอกสารราชการของสำนักทรัพย์สินฯ
.
คำพิพากษานี้จำเลยได้อ้างถึงชื่อนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้บริหารบริษัท บริษัทเรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นน้องชายของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ว่าได้จ่ายเงินจำนวน 20 ล้านบาทในการว่าจ้างให้จำเลยทั้งสองดำเนินการติดต่อประสานงานเพื่อให้ทางบริษัทได้เช่าที่ดิน 2 แปลงใน ซ.ร่วมฤดี และย่านชิดลม จากสำนักงานทรัพย์สินฯ โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการประมูลตามปกติ
.
อย่างไรก็ตามคดีนี้มีจำเลยเพียง 2 คน คือนายประสิทธิและนายสุรกิจ ส่วนนายสกุลธรนั้น ตำรวจไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาและไม่ได้ระบุชื่อเป็นผู้ต้องหา
.
หลังจากประเด็นนี้ถูกเผยแพร่ต่อในโซเชียลมีเดียและสื่อกระแสหลักอย่างกว้างขวาง นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เรียกร้องให้มีการตรวจสอบพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีนี้ว่าเหตุใดจึงไม่ระบุชื่อนายสกุลธรเป็นผู้ต้องหาในสำนวนคดีที่ส่งให้อัยการ และในวันนี้ (9 ธ.ค.) นายวัชระได้ยื่นหนังสือร้องเรียนในประเด็นเดียวกันนี้อีกครั้งต่อคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ของสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายสิระ เจนจาคะ เป็นประธาน
.
แม้ว่าคำพิพากษาออกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่การกลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมอีกครั้งของคดีนี้ทำให้สำนักงานอัยการสูงสุดและกองบังคับการปราบปรามซึ่งเป็นสองหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องต้องออกมาชี้แจง
.
ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เชื่อว่าข้อกล่าวหาเรื่อง “สกุลธรฮุบที่หลวง” ถูกหยิบยกขึ้นมาอย่างจงใจโดยฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของคณะก้าวหน้า เพื่อโจมตีนายธนาธรซึ่งกำลังอยู่ในช่วงช่วยหาเสียงให้ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ธ.ค. นี้
.
น.ส. พรรณิการ์ตั้งข้อสังเกตด้วยว่าข้อกล่าวหานี้อาจเป็นความพยายามที่จะ “ปิดปาก” นายธนาธรและแนวร่วมที่เรียกร้องให้มีการปฏิรูปและตรวจสอบความโปร่งใสของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ก็เป็นได้
.
“พรรณิการ์” ระบุไม่กระทบธนาธร-คณะก้าวหน้า
.
เนื่องจากนายสกุลธรเป็นน้องชายของนายธนาธร ประธานคณะก้าวหน้าซึ่งส่งผู้สมัครลงสนามเลือกตั้งสมาชิก อบจ.ในวันที่ 20 ธ.ค. และกำลังหาเสียงอย่างเข้มข้นในหลายพื้นที่ขณะนี้ บีบีซีไทยจึงได้สัมภาษณ์ตัวแทนคณะก้าวหน้าถึงผลกระทบจากคดีสินบนต่อการทำงานของนายธนาธรและคณะก้าวหน้า โดยเฉพาะในช่วงหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น
.
น.ส.พรรณิการ์ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของคณะก้าวหน้า และตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดคดีนี้จึงกลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้งทั้งที่ศาลมีคำพิพากษาไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
.
“ดิฉันคงพูดอะไรในสาระสำคัญของคดีไม่ได้เพราะอยู่ในระหว่างกระบวนการ…แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่าคดีเกิดมาหลายปี อยู่ดี ๆ ก็มีการออกมาตีข่าวกันอย่างเป็นขบวนการในช่วงสองสัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งท้องถิ่นในวันที่ 20 ธ.ค.” น.ส.พรรณิการ์กล่าว
.
เธอเชื่อว่าการหยิบเรื่องนี้มาพูดอีกครั้งค่อนข้างชัดเจนว่า “หวังผลทางการเมือง” กล่าวคือให้นายธนาธรเสียคะแนนในการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่น
น.ส. พรรณิการ์กล่าวว่าข้อกล่าวหาประเภท “ฮุบที่หลวง” นั้นเป็นเรื่องใหญ่โดยเฉพาะในความคิดของคนในต่างจังหวัด “แต่เราก็เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจว่าเป็นการโจมตีทางการเมือง”
.
นอกจากหวังจะทำให้เกิดความคลางแคลงในตัวนายธนาธรและคณะก้าวหน้าแล้ว น.ส.พรรณิการ์ยังเชื่อว่าการหยิบคดีนี้ขึ้นมา “อาจเป็นความพยายามที่จะปิดปากพวกเราไม่ให้พูดถึงการปฏิรูปและความโปร่งใสในสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์”
——————————-
แหล่งข่าว
– https://www.bbc.com/thai/thailand-55246692