เขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำเซซานตอนล่าง 2 ซึ่งสร้างโดยประเทศจีน มีกำลังผลิตไฟฟ้า 400 เมกะวัตต์ และเป็นเชื่อนพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชา กำลังจะเริ่มเปิดใช้งานในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ หลังจากก่อสร้างมาเป็นเวลา 4 ปี
สมเด็จเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสงปัว เอกอัครราชทูตจีนประจำกัมพูชา ได้ให้เกียรติเข้าร่วมพิธีปิดประตูเขื่อนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (25 ก.ย.)
จากรายงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกัมพูชา เขื่อนดังกล่าวมีกังหันน้ำ 8 ตัว แต่ละตัวผลิตกำลังไฟฟ้าได้ 50 วัตต์
การก่อสร้างทั้งหมดกำลังจะเสร็จสิ้น กังหันน้ำตัวแรกจะเริ่มปฏิบัติการในเดือนพฤศจิกายนนี้ และกังหันน้ำทั้งหมดจะปฏิบัติการเต็มกำลังในเดือนตุลาคม 2018
โครงการนี้เป็นการร่วมทุนระหว่าง 3 บริษัท โดยสัดส่วนการถือหุ้นเป็น China’s Huaneng Hydrolancang International Energy ถือหุ้น 51 เปอร์เซ็นต์, Cambodia’s Royal Group ถือหุ้น 39 เปอร์เซ็นต์, Vietnamese EVN International Joint Stock Company ถือหุ้น 10 เปอร์เซ็นต์.
รมว.เมืองแร่และพลังงานเผยว่า โครงการนี้เป็นสัญญาสัมปทานประเภท BOT (Build-Operate-Transfer) 45 ปี โดยแบ่งเป็นช่วงเวลาก่อสร้าง 5 ปีและระยะดำเนินการใช้จริง 40 ปี พร้อมเสริมว่า เขื่อนดังกล่าวคาดการณ์ว่าจะผลิตไฟฟ้าได้ 1.9 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี และพลังงานไฟฟ้านี้จะขายให้การไฟฟ้าแห่งกัมพูชาด้วยราคาตายตัวที่ 6.95 เซ็นต์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง
เขื่อนนี้จะสร้างรายได้จากภาษีประมาณ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีเมื่อเริ่มปฏิบัติการใช้งานเต็มรูปแบบ
สมเด็จเดโช ฮุน เซนกล่าวระหว่างพิธีปิดประตูเขื่อนว่า โครงการนี้คือความสำเร็จใหม่ในด้านการพัฒนาพลังงานของกัมพูชา
“ข้าพเจ้าสามารถกล่าวได้ว่านี่เป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่กัมพูชาเคยมีมา”
สมเด็จเดโช ฮุน เซนยังกล่าวอีกว่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกัมพูชาต้องพึ่งพาไฟฟ้าที่นำเข้าจากประเทศลาวเป็นหลัก
“แต่นับจากนี้ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกังหันน้ำตัวแรกเริ่มทำงาน ประชาชนในจังหวัดเหล่านี้จะเข้าถึงไฟฟ้าราคาถูกได้ในระยะยาวและสามารถพึ่งพาได้” เขากล่าว
เขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำเซซานตอนล่าง 2 มีความสูง 56.5 เมตร และครอบคลุมพื้นที่ 36,000 เฮกตาร์ ส่งผลกระทบต่อประชาชน 860 ครัวเรือนใน 6 หมู่บ้าน จนปัจจุบันมี 752 ครอบครัว (หรือคิดเป็น 88 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด) ที่ยอมรับค่าทดแทนและย้ายไปอาศัยที่หมู่บ้านแห่งใหม่
“ไม่มีการพัฒนาใดในโลกที่ไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม เพียงแค่กระทบมากหรือน้อยเท่านั้น” รัฐมนตรีกล่าว “โครงการนี้จะสร้างประโยชน์อันยิ่งใหย่ให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการลดความยากจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”
ทั้งนี้ จีนเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในการพัฒนาเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำในกัมพูชา กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกัมพูชาเผยว่าบริษัทจีนได้เข้ามาลงทุนในโครงการเขื่อนในกัมพูชาถึง 7 แห่งแล้ว
ที่มา : เพจ China Xinhua News
26 ก.ย. 2560
สำนักข่าววิหคนิวส์