ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาและสัปดาห์นี้ มีความก้าวหน้าหลายอย่างในการเจรจาระหว่างสองเกาหลีเกี่ยวกับความร่วมมือกันในงานกีฬาโอลิมปิกภาคฤดูหนาว 2018 ที่เกาหลีใต้ โดยเกาหลีเหนือได้ยืนยันว่าจะส่งทีมนักกีฬาและนักแสดงศิลปะของตนเองเข้าร่วมการแสดงที่เกาหลีใต้ด้วย นักกีฬาบางประเภทของทั้งสองเกาหลีจะร่วมทีมเดียวกัน และจะใช้ธงรวมชาติของสองเกาหลีด้วย เป็นภาพที่ผู้ใฝ่สันติภาพทั่วโลกอยากเห็นมานานแล้ว แต่ในอีกมุมหนึ่งมันกลับเป็นภาพที่บาดตาบาดใจของสหรัฐฯ ซะเหลือเกิน จึงเดิหน้ายั่วยุเกาหลีเหนือเพื่อหวังบ่อนทำลายความสามัคคีของสองเกาหลีให้ได้
วันที่ 16 ม.ค. 60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า “‘กองทัพอากาศของสหรัฐฯ ส่งอากาศยานสำหรับตัดสัญญาณการสื่อสารของเครื่องบินข้าศึกเข้าสู่คาบสมุทรเกาหลี” (US Air Force Sends DOS-Attacking Aircraft to Korean Peninsula)
มีรายงานข่าวเมื่อวันจันทร์นี้ว่า สหรัฐฯ ได้ส่งอากาศยาน EC-130H Compass Call ซึ่งมีความสามารถในการโจมตีด้วยการปฏิเสธการให้บริการด้านการสื่อสารของเครื่องบินข้าศึก เข้าไปที่ฐานทัพอากาศ Osan ของเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม ปีนี้
ยังไม่มีความชัดเจนว่า ทำไมสหรัฐฯ ถึงได้ส่งอากาศยานด้านยุทธวิธีที่ทันสมัยลำนี้ไปประจำการที่ฐานทัพแห่งนั้น นักวิจารณ์บางคนตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐฯ อาจจะใช้อากาศยานลำนี้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางการทหารของเกาหลีเหนือในระหว่างงานแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ที่เกาหลีใต้ก็ได้
Lt. Col. Chris Weaton จากฝูงบินต่อสู้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกของกองทัพสหรัฐฯ กล่าวในแถลงการณ์ว่า “เราสามารถที่จะปิดหรือตัดการสื่อสาร (ของข้าศึก) ได้
วันเดียวกันนี้ Sputnik รายงานข่าวอีกข่าวหนึ่งว่า กองทัพสหรัฐฯ กำลังเพิ่มการปรากฎตัวของตนเองรอบๆ คาบสมุทรเกาหลีในช่วงที่ใกล้จะถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว
เรือโจมตียกพลขึ้นบกรุ่นใหม่ลำหนึ่ง (เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์) เรือบรรทุกเครื่องบินรบพิเศษลำหนึ่ง และเครื่องบินทิ้งระเบิดสเตลท์อีกฝูงหนึ่งได้เคลื่อนเข้าสู่ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเมื่อไม่กี่วันมานี้ เว็บไซต์ Military สายทหารของสหรัฐฯ รายงาน
วันที่ 11 มกราคม เครื่องบินทิ้งระเบิดสเตลท์ B-2 Spirit ที่มีศักยภาพในการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ จำนวน 3 ลำได้แตะพื้นที่ฐานทัพอากาศ Andersen บนเกาะกวม ในวันทีี่ 14 มกราคม เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ USS Wasp สำหรับยกพลขึ้นบกได้เดินทางไปถึงท่าเรือ Sasebo ในประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วยฝูงบินรบ F-35B ของนาวิกโยธินหน่วยที่ 31 เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ก็กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก
การจัดทัพในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นว่า แม้ว่าจะมีข้อตกลงว่าจะเลื่อนการซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ออกไปจนกว่าสิ้นสุดการแข่งขันกีฬา แต่เพนตากอนก็ไม่มีทางที่จะลดการ์ดของตนเองลง Stars and Stripes รายงาน
นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวระหว่างการประชุมร่วมกันกับรัฐมนตรีต่างประเทศ 20 ประเทศ (จีนกับรัสเซียไม่เข้าร่วมด้วย) ที่เมือง Vancouver ประเทศแคนาดา เกี่ยวกับปัญหาเกาหลีเหนือว่า “แคมเปญจ์การกดดัน (/กดขี่) เกาหลีเหนือจะยังคงดำเนินต่อไป จนกว่ากรุงเปียงยางจะกระทำการตัดสินใจว่าจะปลดอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมด นี่คือยุทธศาสตร์ที่มีและต้องการความอดทนอดกลั้น”
“พวกเราทั้งหมดจะต้องยืนกรานในการบังคับใช้การคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพราะว่านี่คือบทบัญญัติของกฎหมาย เราขอเรียกร้องต่อจีนและรัสเซียเป็นพิเศษในเรื่องนี้ด้วย” นายทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ประเทศที่ไม่ยอมรับมติของ UNSC และสมัชชาใหญ่ยูเอ็นเกี่ยวกับการปฏิเสธรับรองให้เยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลโดยสหรัฐกล่าว
วันเดียวกันนี้ The Wall Street Journal ของสหรัฐฯ รายงานว่า เพนตากอนจะเดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์สำหรับใช้งานกับครูซมิสไซล์ (จรวดร่อน/อาวุธปล่อยนำวิถี) ที่สามารถยิงจากเรือดำน้ำได้ (ซึ่งก็คือโทมาฮอกติดหัวรบนิวเคลียร์นั่นเอง) อ้างว่าเพื่อตอบโต้ต่อความก้าวหน้าทางกองทัพของรัสเซียและจีน
ที่มา : เพจ ปอกเปลือก ทรราช
https://sputniknews.com/asia/201801161060802832-us-air-force-sends-aircraft-to-korean-peninsula/
https://sputniknews.com/military/201801161060802405-us-bombers-warships-peninsula-games/
https://sputniknews.com/asia/201801161060800192-us-n-korea-pressure-tillerson/
https://sputniknews.com/military/201801161060801502-new-us-nuclear-weapons-reports/
สกฤษฏ์ สุวรรณรัตน์
สำนักข่าววิหคนิวส์