15 พ.ย.63 – นายนคร มาฉิม สมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ประเทศไทยของเรา กำลังก้าวเข้าสู่ยุคมิคสัญญี จากผู้ปกครองที่เป็นเผด็จการทรราช เพียงเพื่อรักษาระบอบเผด็จการฟาสซิสต์ ศักดินาล้าหลัง ที่เหล่านายทุน ขุนศึก ศักดินา อำมาตย์ สมคบคิดกัน สมประโยชน์กัน เสวยสุข ร่ำรวย ทรัพย์สิน เงินทอง ยศถาบรรดาศักดิ์ ไม่กี่ตระกูล บนความทุกข์ยากแร้นแค้น ของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ไทยกลายเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ระบอบเผด็จการทรราชที่มีพลเอกประยุทธ์ เป็นผู้นำรัฐบาลได้ร่วมมือกับเครือข่าย ลิ่วล้อบริวาร องคาพยพทั้งข้าราชการระดับสูงหลายคน ทหาร ตำรวจ ระดับสูงหลายคน องค์กรอิสระ ศาลกระบวนการยุติธรรมและพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการ ได้ร่วมกัน กับลิ่วล้อบริวาร
1. สร้างรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช ปี 60 ที่วางโครงสร้างให้ระบอบเผด็จการศักดินาล้าหลัง ให้เข้มแข็ง พร้อมกับทำลายระบอบประชาธิปไตยให้อ่อนแอ ทำลายอำนาจของประชาชน เป็นรัฐธรรมนูญที่วิปริต ผิดเพี้ยน ไม่เป็นสากล สร้างกฎ กติกาที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา ก่อให้เกิดความแตกแยก สร้างความไม่เป็นธรรม ความไม่เสมอภาค ความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า สร้างวิกฤตชาติบ้านเมืองอย่างไม่เคยมีมาก่อน เป็นที่มาของรัฐบาลเผด็จการทรราชที่สืบทอดอำนาจ จากกติกาของโจรกบฏที่คดโกง
เป็นที่มาของสมาชิกวุฒิสภาแต่งตั้ง 250 คน ให้เป็นเสาค้ำยันบัลลังก์ของเผด็จการทรราช เป็นที่มาขององค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ยุติธรรมที่ถูกใช้เป็นเครื่องจักรสังหาร เข่นฆ่าฝ่ายประชาธิปไตย ที่เห็นต่าง เป็นต้นเหตุของการลุกขึ้นมาประท้วง ขับไล่ ผู้นำรัฐบาลเผด็จการซ่อนรูปที่นำโดย พลเอกประยุทธ์ เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ เรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ของเหล่านักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยต่อเนื่องยาวนานถึงปัจจุบัน ทุกแห่งทั่วประเทศ
2. แทนที่จอมเผด็จการ และ เหล่าเผด็จการทรราชจะแก้ไข ปัญหาที่ต้นเหตุ คือรัฐธรรมนูญ เจ้าปัญหา แทนที่จะลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ แทนที่จะนำข้อเสนอให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์มาพิจารณาเพื่อให้ดีขึ้น และอยู่ร่วมกันอย่างสันติ สร้างความเป็นธรรม สร้างความรัก ความสามัคคีให้คนในชาติ นำพาบ้านเมืองของเราให้พ้นจากความขัดแย้ง ความแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย พัฒนาบ้านเมืองของเราให้เจริญก้าวหน้าเช่นอารยะประเทศ พวกเขากลับ
2.1 สั่งการให้ส่วนราชการ ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ ทหาร ตำรวจ และกระบวนการยุติธรรม ในนามกฎหมาย ดำเนินการจับกุม คุมขัง ทำร้าย ทำลาย นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนที่เรียกร้องสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ภราดรภาพและประชาธิปไตย เป็นจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ เพื่อให้สยบ หวาดกลัว เป็นทาสไพร่ต่อไป
2.2 จอมเผด็จการและลิ่วล้อบริวารของเผด็จการทรราช ได้ส่งเสริม สนับสนุน จัดตั้งมวลชนเสื้อเหลือง จากโครงข่ายราชการ ผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อ ส ม. จิตอาสาและพวกนักเลงอันธพาลให้มาสนับสนุนฝ่ายตน โดยใช้เงินงบประมาณภาษีของประชาชน พยายามก่อเหตุ ทำร้ายมวลชนฝ่ายประชาธิปไตยโดยไม่มีการเอาผิดใดๆ
2.3 ที่ละเอียดอ่อน ต่อการที่จะเกิดสงครามกลางเมือง สงครามศาสนา มากที่สุด ก็คือการที่จอมเผด็จการและลิ่วล้อบริวารใช้องค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ คือมหาเถระสมาคม เป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายตน โดยอ้างว่าปกป้องสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้มีการชุมนุมของพี่น้องชาวมุสลิม ใส่เสื้อเหลืองอ้างว่า เพื่อปกป้อง สถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เอามาปกป้องคุ้มครองฝ่ายเผด็จการทรราช
รัฐบาลเผด็จการนี้สร้างความแตกแยก ความเกลียดชัง ให้คนไทยด้วยกัน สร้างความแตกแยก ความขัดแย้งระหว่างศาสนาเพื่อให้เป็นไปตามทฤษฎีแบ่งแยกแล้วปกครอง
โดยรวมแล้ว จอมเผด็จการและเหล่าเผด็จการทรราช สร้างวิกฤตต่อชาติบ้านเมือง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมการเมือง และศาสนาอย่างไม่เคยมีมาก่อน เพียงเพื่อรักษาอำนาจ ผลประโยชน์ ลาภ ยศ ของตนเองและพวกพ้องเท่านั้น ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์และรัฐบาลเผด็จการซ่อนรูปนี้ อีกไม่นาน ประเทศไทยของเราจะเกิดมิคสัญญี จะเป็นรัฐที่ล้มเหลว อย่างแน่แท้
นคร มาฉิม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก