ศาลอาญารับสำนวนคดีที่อัยการส่งฟ้องคดี 4 แกนนำราษฎร โดยคดีแรก ยื่นฟ้องนายพริษฐ์เป็นจำเลยเพียงคนเดียว กรณีชุมนุมม็อบเฟสเมื่อวันที่ 14-15 พ.ย. 2563 บริเวณแยกคอกวัว ถ.ราชดำเนิน สำนวนที่สอง ยื่นฟ้องนายพริษฐ์, นายอานนท์, นายปติวัฒน์ และนายสมยศ เป็นจำเลยกรณีชุมนุม 19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 2563 ที่ ม.ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์และสนามหลวง เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออก, ขอให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบันฯ
ทั้งนี้ ศาลได้สอบคำให้การพวกจำเลยแล้ว พวกจำเลยแถลงให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย โดยคดีแรก นัดวันที่ 15 มี.ค. นี้ เวลา 09.00 น. และอีกคดี นัดวันที่ 15 มี.ค. นี้ เวลา 13.30 น.
จากนั้นจำเลยทั้งสี่ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นนี้ แต่ศาลมีคำสั่งว่า พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง อีกทั้งการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำ ซ้ำๆต่างกรรมต่างวาระ ตามข้อกล่าวหาเดิมหลายครั้งหลายครา กรณีมีเหตุอันควรเชื่อว่า หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยอาจไปก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับความผิดที่ถูกกล่าวหาอีก จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง แจ้งคำสั่งให้ทราบและคืนหลักประกันทั้งสองสำนวน
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัว 4 แกนนำ กลุ่มราษฎร ประกอบด้วย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ (เพนกวิน), นายอานนท์ นำภา, นายปติวัฒน์ แย้มสาหร่าย (หมอลำแบงค์) และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภายหลังศาลอาญา ไม่อนุญาตให้ประกันตัว โดยจำเลยทั้ง 4 เป็นจำเลยในคดีกรณีการชุมนุม 19 กันยาทวงอํานาจคืนราษฎร เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 2563 ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์และสนามหลวง เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออก, ขอให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบันฯขณะเดียวกันพบว่าเพจราษฎรได้มีการโพสต์นัดหมายให้มวลชน ออกมารวมตัวกันชุมนุม ที่บริเวณสกายวอล์คแยกปทุมวันในเวลานี้