วันที่ 20 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่ข่าวสำนักงาน ป.ป.ช.ต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2566 ในการประชุมวุฒิสภา ซึ่งนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณารายงานผลการตรวจสอบ และผลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ประจำปีงบประมาณ 2565 และรายงานสถานการณ์การทุจริตประเทศไทย ประจำปีงบประมาณ 2565 ซึ่งในระหว่างการอภิปรายของสมาชิกวุฒิสภา มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับการทำงานเชิงรุกของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อการตรวจสอบนโยบายของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่สำคัญคือนโยบายเกี่ยวกับการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับประชาชน ซึ่งพบข้อท้วงติงจากฝ่ายต่าง ๆ และกังวลว่าจะซ้ำรอยโครงการรับจำนำข้าว ที่ได้สร้างความเสียหายเป็นมูลค่ามหาศาลมาแล้ว
โดย นางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรรมการ ป.ป.ช. ชี้แจงประเด็นข้อซักถามในการติดตามนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่รัฐบาลเตรียมดำเนินการ ว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ศึกษาและรวบรวมรายละเอียดข้อมูล โดยศึกษาคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11-12 กันยายน พ.ศ.2566 เกี่ยวกับโครงการเติมเงินหมื่นบาท ผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ต และนำไปวิเคราะห์ตามเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงในการทุจริตเชิงนโยบาย และจะขอให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับนโยบายดังกล่าว นำเสนอข้อมูลให้แก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. และอาจมีการเชิญนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินการคลัง มาเข้าร่วมศึกษาในรายละเอียดให้ครบถ้วน
นางสุวณา กล่าวด้วยว่า การตรวจสอบนโยบายสาธารณะของรัฐบาลดังกล่าว คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจภายใต้กรอบของกฎหมาย เหมือนรัฐบาลทุกชุดที่ผ่านมา และแม้ว่าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท จะยังไม่มีการแถลงให้เห็นภาพที่ชัดเจนออกมา แต่ด้วยความห่วงใยจากสมาชิกวุฒิสภา เกี่ยวกับประเด็นการแจกเงินดิจิทัลดังกล่าว ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. ถือเป็นวาระเร่งด่วน ที่จะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ และรัดกุมที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการทุจริต และคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก