ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #เจ้าของปั้มซวย ! ดร.สุกิจ ยันคอนโดมีสิทธิ์ฟ้อง ฐานนำภาพผีปิดหลังคา

#เจ้าของปั้มซวย ! ดร.สุกิจ ยันคอนโดมีสิทธิ์ฟ้อง ฐานนำภาพผีปิดหลังคา

19 March 2021
549   0

ดร.สุกิจ พูลศรีเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายได้โพสข้อความระบุว่า

ภาพและข้อความของลูกบ้านคอนโดฯ ดังใจกลางกรุง ย่านพระราม 4 ที่ต้องทนปัญหามลพิษทางสายตา เมื่ออาคารที่เป็นโกดังที่อยู่ใกล้กับคอนโดฯ ติดป้ายเป็นรูปเมรุเผาศพกับรูปผีหรือวิญญาณชวนสยอง ทำให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความหวาดผวา นั้น เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาหรือไม.
เนื้อหาแม้จะเป็นเป็นเพียงแนวความคิด อันเป็นแรงบันดาลใจ เชิญชวนให้ผู้ร่วมทำบุญบริจาดโรงศพ สิ่งปฎิกูลเช่นโถส้วม และรูปผีหรือวิญญาณชวนสยอง นั้น โดยมีข้อความในภาพเกี่ยวกับรากฐานที่เจ้าของปั้มแก็สผู้คิดจัดทำป้ายขึ้นได้รับความเสียหาย

จากรากฐานที่มีการการฟ้องทางฝ่ายปั้มแก๊สมีการฟ้องคดีกันแล้วที่ศาลแพ่ง ย่อมมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน รับฟังประกอบกับเจ้าของปั้มแก๊สกับทนายความออกมายืนยันข้อเท็จจริงว่า “ยังไม่มีใครรับผิดชอบ “นั้น แนวความคิดภาพสยอง อ่านเนื้อหาในภาพได้ระบุข้อความให้ไปสู่ที่ชอบๆที่ชอบ หันหน้าป้ายไปทางคอนโดยเฉพาะ (มิได้ระบุถึงเจตนาในภาพแนวความคิดไม่ได้ให้ร้ายใคร)

ย่อมเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต หากปั้มแก็ส มีแนวความคิดที่จะเชิญชวนผู้ร่วมทำบุญจริง ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมีภาพ ภาพสยอง อ่านเนื้อหาในภาพได้ระบุข้อความให้ไปสู่ที่ชอบๆที่ชอบ. ผู้เขียนขอยกตัวอย่าง “มูลนิธิต่างๆที่ชวนบริจาดโรงศพ ก็ไม่เห็นต้องมีโถส้วม และสิ่งปฎิกูล หรือภาพเมรุเผาศพ ประกอบ การเชิญชวน แต่อย่างไร.

คดีเป็นคดีอาญา เกี่ยวเนื่องคดีแพ่ง มีการเรียกค่าเสียหายเป็นตัวเงินสูงถึง 100ล้านบาท เกี่ยวกับเรื่องการใช้สิทธิของปั้มแก๊ส ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 421 การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดความเสียหาย แก่ บุคคลอื่นนั้นท่านว่าเป็นการอันมิชอบด้วยกฎหมาย.นิติบุคคลอาคารชุดย่อมมีสิทธิยับยั้ง
ตามประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1337 บุคคลใดใช้สิทธิของตนเป็นเหตุให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเสียหาย หรือเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันควร

ในเมื่อเอาสภาพและตำแหน่งที่อยู่แห่งทรัพย์สินนั้นมาคำนึงประกอบไซร้ ท่านว่าเจ้าของ อสังหาริมทรัพย์มีสิทธิจะปฏิบัติการ
เพื่อความเสียหายหรือเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไป  ทั้งนี้ ไม่ลบล้างสิทธิที่จะเรียกเอาค่าทดแทน นิติบุคคลอาคารชุดอ้างว่าได้ลงทุนไป 7000 ล้านมีผลกระทบอันนี้เจ้าของปั้มกับพวกต้องรับผิดชอบจะเป็นจำนวนเงินเท่าไร นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ทางฝ่ายนิติบุคคลอาคารชุด จึงจำเป็นต้องนำวัตถุพยานภาพ สยอง ชึ่งเป็นภาพผีและวิญญาน ต่างๆในภาพมาประกอบการไต่สวน เพื่อเปิดเพื่อเปิดให้ศาลเห็นว่า ในเวลากลางคืน ภาพเหล่านั้นหลอน เหมือนเหตุการจริง จึงยื่นคำร้องต่อศาลให้ตำรวจไปเอาภาพมาประกอบการไต่สวน เมื่อศาลเห็นความจำเป็นจึงออกหมาย ให้ ผกก. ทองหล่อนำป้ายมาศาลตามกำหนดในหมาย โดยมีเจ้าหน้าที่ศาลนำหมายไป ชึ่งเป็นไปตามหมายของศาล.
ส่วนในหมายนั้นระบุว่า วัตถุพยาน หรือภาพถ่ายนั้น ทางฝ่ายปั้มแก็สไม่
ยินยอมให้ปลดไป และยินยอมให้ถ่ายภาพไปนั้น เมื่อวัตุพยานสามารถนำไปศาลได้ก็ไม่จำเป็นต้องถ่ายภาพ เพราะเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิดต้องริบ
และทำลายอยู่แล้ว