UPDATE: ผลประกอบการ 9 เดือน ปี 2564 ‘การบินไทย’ พลิกกำไร 51,115 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการปรับโครงสร้างหนี้ การขายทรัพย์สินและเงินลงทุน เป็นต้น
.
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ประกาศผลการดำเนินงานประจำงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 14,990 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 29,230 ล้านบาท หรือ 66.1% มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 36,481 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 41,695 ล้านบาท (53.3%) เนื่องจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่แปรผันตามปริมาณการผลิตและปริมาณการขนส่งลดลง ตลอดจนการดำเนินมาตรการเพื่อลดค่าใช้จ่ายตามแผนปฏิรูปธุรกิจ
.
อย่างไรก็ดี การบินไทยมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็นรายได้ จำนวน 73,084 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ การขายทรัพย์สินและเงินลงทุน การปรับโครงสร้างองค์กร เป็นต้น ส่งผลให้การบินไทยมีกำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกของ ปี 2564 จำนวน 51,115 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว การบินไทยจะขาดทุนจากการดำเนินงาน 21,491 ล้านบาท
.
ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 การบินไทยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 163,703 ล้านบาท ลดลงจากวันที่ 31 ธันวาคม 2563 จำนวน 45,594 ล้านบาท (21.8%) หนี้สินรวมมีจำนวน 240,196 ล้านบาท ลดลงจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 จำนวน 97,766 ล้านบาท (28.9%) ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทและบริษัทย่อย ติดลบจำนวน 76,493 ล้านบาท ติดลบลดลงจากวันที่ 31 ธันวาคม 2563 จำนวน 52,172 ล้านบาท
.
การบินไทยย้ำว่ามีสถานะการเงินที่เข้มแข็งและมั่นคง มีกระแสเงินสดเพียงพอต่อการดำเนินกิจการระหว่างการจัดหาสินเชื่อใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการในระยะต่อไปได้ในไตรมาสแรกของปี 2565
.
นอกจากนี้ การบินไทยยังดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการหารายได้จากการพัฒนาระบบตัวแทนจำหน่าย การบริหารช่องทางการขายตรง ตลอดจนการลงทุนนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามายกระดับความสามารถในการแข่งขันของบริษัทคู่ขนานมาโดยตลอด มีเป้าหมายในการสร้างการเติบโตด้านรายได้อย่างต่อเนื่องและทำกำไรได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
.
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป การบินไทยเพิ่มเส้นทางบินและเที่ยวบิน ทั้งในส่วนของการบินไทยและสายการบินไทยสมายล์ ไปยัง 44 จุดหมายปลายทางหลักในประเทศและภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกกว่า 400 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ รองรับผู้โดยสารกว่า 1 ล้านคนต่อเดือน ผลักดันให้รายได้จากการขนส่งผู้โดยสารกลับไปสู่ระดับ 1 แสนล้านบาทในปี 2565
.
.