19 กันยายน 2560 นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำเสื้อแดง ที่หลบหนีคดี ได้โพสข้อความระบุว่า วันนี้เมื่อ พ.ศ. 2549 มีคนสั่งให้ทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามา เพราะคนสั่งหมดปัญญาที่จะกำจัดรัฐบาลที่ประชาชนทั้งรักและศรัทธา และกำลังหยั่งรากลึกลงทุกทีในประเทศที่เรียกกันว่าราชอาณาจักร
หลังจากที่เรียกไปบอกตรงๆ เมื่อตอนต้นปีว่าให้สละอำนาจ ตามมาด้วยการดวลดาบกันด้วยการยุบสภา 24 กุมภาพันธ์และการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน ซึ่งช่วยตอกย้ำยืนยันว่า รัฐบาลของพรรคไทยรักไทยและนายกรัฐมนตรีทักษิณเป็นที่นิยมรักใคร่อย่างกว้างขวางทั่วประเทศ เขาก็เดินเกมต่อด้วยการประกาศให้การเลือกตั้งนั้นเป็นโมฆะ หันไปเล่นงานผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลางอย่างกรรมการการเลือกตั้งสามคนจนถึงขั้นติดคุก เร่งอารมณ์ของตัวแทนเศรษฐีเก่าและเงินเก่าในนามกลุ่มพันธมิตรฯ
ให้หนักข้อรุนแรงยิ่งขึ้น สุดท้ายก็ล้มเหลวหมดทุกท่า จนคอตก ไม่มีทางจะทำความชั่วในทางการเมืองแบบซ่อนมือตัวเองและโยนบาปให้คนอื่นได้อีกต่อไป จึงเรียกกลุ่มมาเฟียที่อุตส่าห์สร้างสมมานานหลายปี ภายใต้การควบคุมของ…. ให้มารับคำสั่งโดยตรงจากตัวเองในตอนกลางดึก บอกให้ก่อการรัฐประหารยึดอำนาจเสียในคืนนั้น และเริ่มโศกนาฏกรรมรอบใหม่ของราชอาณาจักรไทยที่ยืดเยื้อยาวนานมาจนถึงทุกวันนี้
ทั้งหมดนี้อาจจะเป็นการเล่าเรื่องเก่าซ้ำใหม่ แต่ก็ต้องเล่าย้ำซ้ำทวนเพื่อตราไว้ให้ชัดเจนว่า ใครคือต้นเหตุแห่งวิบากกรรมไทย ถึงตัวผู้ก่อกรรมจะอยู่หรือไม่ก็ตาม กรรมนั้นก็ยังอยู่ ใครที่ช่วยเหลือในการปกปิดกรรมนั้นและลากกรรมนั้นให้ยาวนานต่อมาโดยไม่มีสำนึกผิดบาป คณะนั้นๆ หรือคนนั้นๆ ก็คือทายาทแห่งกรรมชั่ว ที่จะต้องเผชิญหน้ากับฝ่ายเจ้าของประเทศคือพลเมืองไทยต่อไป ครอบครัวใดหรือบุคคลใดในขบวนการประชาชนจะถอย ก็ถอยไป แต่ขบวนการนึ้ไม่มีถอย มีแต่จะแรงกล้าขึ้นทุกที
นี่คือความสำคัญของ 19 กันยายนของทุกปีจากนี้ไป.
สำหรับจักรภพ เพ็ญแข เป็นแกนนำเสื้อแดง ที่นำไพร่พลบุกบ้านพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ และยังเป็นผู้ต้องหาหลบหนีในหลายคดี
สำนักข่าววิหคนิวส์