วันนี้ทางทีมงานได้ติดตามกรณีพล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ออกมาเปิดเผยถึงเหตุลอบวางระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าอีกครั้งว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติอย่างมาก โดยเฉพาะในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งถือว่าเป็นความเสียหายกับประเทศเป็นอย่างมาก เพราะในภาวะที่รัฐบาลกำลังพยายามปฏิรูปประเทศให้เป็นระเบียบก็มีอาจมีคนบางกลุ่มได้รับผลกระทบ ดังนั้นตนจึงขอประณามผู้กระทำการในครั้งนี้ว่าเป็นพวก หน้าตัวเมียไม่เหมือนกับต่างประเทศ เพราะหากมีการระเบิดเกิดขึ้น ก็จะมีกลุ่มออกมาแสดงความรับผิดชอบอย่างชัดเจน และที่สำคัญการระเบิดในโรงพยาบาลถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง อีกทั้งยังใช้ระเบิดแสวงเครื่องแบบสังหาร
ผมรับทราบการข่าวแล้วว่ามีกลุ่มเกี่ยวข้องก่อเหตุครั้งนี้ 3-4 กลุ่ม ผมมีอยู่ทั้งหมดแล้วอยู่ทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นฝีมือคนไทยด้วยกันเองไม่ใช่ชาวต่างชาติเลย และที่ผ่านมาได้รายงานให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง รวมถึงผบ.ทบ. รับทราบแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้เสียกำลังใจ และบอกให้ใจเย็นในการจัดการ เพราะต้องรอการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มีหลักฐานแน่ชัด ก่อนที่จะดำเนินการใด ซึ่งขณะนี้ทางกองทัพภาคที่ 1 พร้อมดำเนินการอย่างไร้ความปราณี ไม่ว่ากลุ่มนั้นจะอยู่ในหรือต่างประเทศ ลูกน้องถามผมอยู่ทุกวัน แม่ทัพเอายังๆ ผมบอกรอฟังนายก่อน
นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่1 ยังกล่าวยืนยันอีกว่า ฝ่ายความมั่นคงได้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ และเข้มงวด แต่ยอมรับว่าในโรงพยาบาลเป็นพื้นที่เปิด ทำให้กลุ่มผู้ก่อความรุนแรงมักจะมีช่องทางในการกระทำผิดได้เสมอ
แต่หลังจากนี้ได้สั่งการให้กองอำนายการรักษาความปลอดภัยภาคที่ 1 ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดสัมมนาให้ความรู้บุคคลากรในส่วนห้างร้าน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตามจุดคมนาคมขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ เพื่อสังเกตเหตุร้ายและสิ่งต้องสงสัย เพื่อร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้น ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลเป็นคนวางระเบิดเองนั้น ตนอยากรู้นักว่าคนที่บอกแบบนั้น เอาอะไรมาคิดว่ารัฐบาลเป็นคนทำ
อย่างไรก็ตามสำหรับพลโท อภิรัชต์ เกิดเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2503 มีชื่อเล่นว่า แดง จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกของบุคคลทั่วไปว่า ผู้การแดง หรือ บิ๊กแดง เป็นบุตรชายคนโตของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) จบโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 20 (ตท.20)โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 31 (จปร.31) เหล่าทหารราบ เคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 พัน 2 รอ.) ก่อนติดยศพันเอก (พ.อ.) ในตำแหน่งเสนาธิการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (เสธ.ร.11 รอ.) จากนั้นขึ้นรับตำแหน่งรองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (รองผบ.ร.11 รอ.) ขณะเดียวกันก็ไปราชการสนามที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในเหตุการณ์ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ ในหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส
จากนั้นขึ้นเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์และขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (รองผบ.พล.1 รอ.)และดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15 และในเวลาต่อมาได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ปัจจุบันเป็นแม่ทัพภาคที่1 พล.ท.อภิรัชต์ เป็นที่รู้จักกันในเหตุการณ์การชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติปี2553 เป็นผู้นำทหารในสังกัดกองทัพบกหลายคน หลายเหล่าตำหนิพฤติกรรม พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล เป็นผู้จัดการกวาดล้างคนมีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันจนเป็นที่กล่าวขาน ทำให้ถูกจับตามองบทบาทและสถานะตลอดมา จนกระทั่งเหตุการณ์ล่าสุดในตำแหน่งล่าสุดแม่ทัพเมืองหลวงว่านี่คือว่าที่ผู้บัญชาการทหารบก คนต่อไปอย่างมิต้องสงสัย
AdminPhaitong สำนักข่าว vihok news