เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 มีนาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรค พท. แถลงว่า วันนี้ตั้งใจมาให้สัมภาษณ์เพราะตนเห็นนักการเมืองชั่วๆ เลวๆ ที่ออกมาพูดถากถาง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะทำงานด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ที่เข้ามาทำงานการเมืองเป็นหัวหน้าครอบครัวพรรค พท. เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ คนที่ต้องพูดคุยกับ น.ส.แพทองธาร คือพรรค พท.ไม่ใช่นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หรือนายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ตนถือว่า 2 คนนี้พูดเพราะด้วยไม่ได้ ต้องบอกว่ามายุ่งกับพรรคคนอื่นเขา ส่วน น.ส.แพทองธาร เข้ามาการเมืองแล้วจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เป็นเรื่องเฉพาะตัว เป็นความสามารถส่วนบุคคล อย่าโจมตีเด็กที่บริสุทธิ์ทางการเมือง ตนไม่อยากให้คนที่มีความตั้งใจและบริสุทธิ์ใจทางการเมืองต้องมาแปดเปื้อนเพราะนักการเมืองบางคน เรื่องนี้มีการวางแผนกันไว้เพื่อสกัดกั้นบุตรสาวนายทักษิณ ทั้งนี้ ประชาชนจะเลือกใครไม่ใช่เรื่องของพวกท่าน แต่เป็นเรื่องของประชาชน ไม่ต้องมายุ่ง พรรคไหนได้คะแนนมากก็ได้จัดตั้งรัฐบาล การเมืองเขาเล่นกันแบบนี้ วันนี้คะแนนพรรคเราดี ผู้สมัครเราก็ดี และ น.ส.แพทองธารเก่ง หลานจะช่วยพรรคได้เยอะ การเมืองรอบนี้จะสนุก แล้วพวกหลานๆ จะได้เห็นคนร้องไห้
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า นอกจากนี้ ตนคิดว่าจะปราศรัยนอกสภา รัฐบาลวิบัติมาตลอด พล.อ.ประยุทธ์บริหารบ้านเมืองไม่ได้ เพราะมีคนแบบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาร่วมรัฐบาล ก่อนเลือกตั้งก็บอกว่า ตัวเองจะไม่มีทางมาร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ที่ยึดอำนาจ ขอให้ประชาชนเชื่อใจ ท่านจะมองหน้าชาวบ้าน และมองหน้าลูกเมียได้อย่างไรว่าท่านมีพฤติกรรมแบบนี้ เพราะหลังเลือกตั้งท่านปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ทุกทาง สมัยหน้าไม่มีใครเลือกคุณหรอก ต่อมาคือนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. ที่เคยบอกว่าจะทำประชาธิปไตยให้สุจริต แล้วไปร่วมกับคนที่ยึดอำนาจนี่สุจริตตรงไหน ตนขอท้าคนเหล่านี้ให้มาดีเบตกัน ถ้าตนเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ตนจะยุบสภาให้นายอนุทินและพรรค ปชป.กระอักเลือดตาย เพราะทั้ง 2 พรรคนี้กลัวจะมีการยุบสภา เขาไม่อยากให้ยุบเนื่องจากเขามีภารกิจที่ต้องทำแต่ยังไม่เสร็จ ตนไม่ได้ชอบ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยุบสภาวันนี้กลับบ้านไปได้นั่งหัวเราะ แต่ 2 คนนี้กลับไปอาจผูกคอตาย
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอีกว่า สำหรับวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกฯ ตัวเองเป็นคนเขียนรัฐธรรมนูญเองว่าห้ามเกิน 8 ปี กรณีนี้ตนจะอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาด้วย นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังสั่งราชการแบบขาดความรู้ ขาดวิสัยทัศน์ ท่านพูดเล่นเรื่องของขายไม่ออกให้ไปขายที่โน่นที่นี่ได้ แต่ท่านต้องพูดเล่นที่บ้าน ต่อมาคือภาพลักษณ์ในเวทีต่างประเทศไม่ดี อีกประการคือการแก้โควิดในประเทศล้มเหลว คนตาย คนป่วยมากขึ้น และแจกเงินตลอดเวลา ส่งผลเสียหายในระยะยาว นอกจากนี้ท่านยังควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมพรรคการเมืองต่างๆ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พรรคเล็กพรรคน้อยเยอะเหลือเกิน และท่านเป็นผู้นำที่ขาดวุฒิภาวะการเป็นผู้นำอย่างสิ้นเชิง แก้ปัญหายาเสพติดขาดมาตรฐาน วันนี้ยาบ้าคือสินค้าที่ถูกที่สุด ทั้งยังมีกรณีกัญชา วันนี้มีนักการเมืองชั่วไปปลูกกัญชาที่ลาวไว้ 5,000 ไร่ เรื่องนี้นายอนุทินเกิดอีกกี่ชาติก็ทำไม่ได้ วันนี้คุณน้า คุณอา คุณยาย โดนจับเพราะคุณไม่เคลียร์ กฎหมายยังปลดล็อกไม่สมบูรณ์ ตนฝากไปถึงนายอนุทินว่าอย่าให้ตนถึงที่สุด เพราะตนเป็นคนช่างพูด ตนก็จะพูดให้ถึงที่สุด
เมื่อถามถึงรายละเอียดเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาว่าจะดำเนินการอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนจะรวมคนที่เข้าสภาไม่ได้ ใช้ลาน กทม. และตนจะต้องรับผิดชอบ เพราะตนไม่มีอะไรคุ้มครอง รัฐบาลเละเทะเรื่องไหนโดยเฉพาะกรณีเขากระโดง รถไฟสายสีเขียว ฯลฯ ตนจะรวบรวมเรียบเรียงข้อมูลที่มีอยู่ ตนไม่อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ ตนไม่ได้เกลียด พล.อ.ประยุทธ์ แต่หมั่นไส้ 2 พรรคนี้ ทั้งนี้ คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์อยู่ไม่ได้ ไม่รู้เรื่องในสภา แต่ตนจะใช่เวทีข้างนอกด่า 3 วัน สายตาของตนไม่เคยให้เกียรติพรรคภูมิใจไทย เพราะขโมยสมาชิกไปจากพรรคพลังประชาชน ตนไม่เคยให้แต้ม อย่างไรก็ตาม สำหรับการอภิปรายนอกสภาตนขอดูจังหวะเวลา และดูฝนด้วยก่อน
เมื่อถามถึงกฎหมายลูกที่มีความเห็นแย้งกันเรื่องจะใช้เบอร์เดียวหรือคนละเบอร์ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เท่ากันนั่นแหละ เอาอย่างไรก็ได้