นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า หอการค้าไทยมองว่าในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2564 คาดว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ในปี 2564 จะเติบโตอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1-1.5 โดยตัวเลขนี้คงจะไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลงไปมากกว่านี้ แม้ว่าในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จะมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วก็ตาม ดังนั้นสิ่งที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสายพันธุ์ใหม่ๆที่จะต้องเร่งหาทางป้องกันและได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างจริงจัง โดยเชื่อว่าหากยาโมลนูพิราเวียร์ ที่จะเข้ามารักษาโควิด-19 หากนำเข้ามาในไทยแล้วจะมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพราะมองว่าทุกส่วนทั้งเศรษฐกิจ และสาธารณสุขต้องไปด้วยกัน
โดยหลังจากการเปิดประเทศแล้วอยากเห็นรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทุกด้านให้ครอบคุม จากงบประมาณที่คงค้างอยู่หลายแสนล้านบาท หลังจากที่รัฐบาลมีการขยายเพดานก่อหนี้จากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 70 และมีงบประมาณเหลือใช้ในไตรามาส 4/2564 ประมาณกว่า 500,000 ล้านบาท รวมถึงงบเหลือใช้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ประมาณ 500,000 ล้านบาทที่รัฐบาลต้องเร่งนำงบประมาณที่มีอยู่เหล่านี้ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจรอบด้าน เพื่อต่อลมหายใจให้กับภาคธุรกิจ และภาคประชาชนเพิ่มเติมให้มากขึ้น
ส่วนข้อกังวลเรื่องการกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้งนั้น เชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้นหากรัฐสามารถควบคุมไม่ให้เกิดการติดเชื้อฯ ที่รุนแรงได้ บวกกับในปัจจุบันประชาชนเริ่มเข้าถึงวัคซีนได้มากขึ้นแล้ว และปัจจุบันสาธารณสุขเร่งฉีดวัคซีนได้แล้วกว่า 1 ล้านโดส/วัน โอกาสที่จะเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ที่รุนแรงก็มีโอกาสเป็นไปได้น้อยมากที่รัฐบาลจะกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง