2 ก.ย. 63 – ที่รัฐสภา 7 พรรคเล็ก นำโดย นายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายพิเชษฐ กล่าวว่า หลังจากยื่นใบลาของรมว.การคลัง ประชาชนไม่ว่าจะอยู่ในการเมืองหรือนอกการเมืองให้ความสำคัญ เพราะตำแหน่งนี้ดูแลการเงิน เศรษฐกิจ ที่เกี่ยวข้องวิถีชีวิตของทุกคน ซึ่งเรามีคำถามว่ารัฐบาลจะเดินหน้าอย่างไรต่อไป เราเป็นห่วงเสถียรภาพรัฐบาล เพราะตำแหน่งนี้มีความสำคัญ เราจึงได้มีการหารือกันในกลุ่ม 7 พรรคเล็กว่าจะมีแนวทางหรือวิธีการใด รวมถึงอยากทราบถึงสถานะรัฐบาลด้วย โดยวันนี้ได้มีการหารือกันในหลายประเด็น ให้ประชาชนทั้งประเทศสบายใจว่าทางออกของรัฐบาล และเสถียรภาพของรัฐบาลยังมั่นคง ทั้งนี้อยากให้ประชาชนรู้ว่ารมว.คลัง แต่ยังมีคนดำเนินการแทนได้ เบื้องต้นเพื่อไม่ให้เป็นการกดดันการสรรหาคนที่มาทำหน้าที่แทนตำแหน่งนี้ ดังนั้นกลุ่มเราเสนอว่าให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมควบตำแหน่งรมว.คลัง ซึ่งในหลักการนายกฯ ก็ดูแลอยู่แล้วจะได้ไม่ต้องห่วงกลุ่มหรือพรรคต่างๆที่จะผลักดันคนมานั่งรมว.คลัง
นายพิเชษฐ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เรายังเห็นว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เคยควบรมว.กลาโหม ดังนั้นเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระนายกฯจึงอยากเสนอให้พล.อ.ประวิตร ควบตำแหน่งรมว.กลาโหม ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่งบประมาณจะเข้าในวาระ 2 ในเดือนก.ย.รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ทุกอย่างเดินไปปกติ ไม่มีปัญหา สร้างความเชื่อมั่นการลงทุนให้ต่างประเทศจึงเป็นแนวทางที่พรรคเล็กอยากเสนอไปยังนายกฯ
เมื่อถามว่าการแถลงข่าวครั้งนี้เพื่อเป็นการทวงเก้าอี้รมว.กลาโหมให้พล.อ.ประวิตร หรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่เป็นความเห็นของพรรคเล็ก และเราเห็นว่าพล.อ.ประวิตร มีร่างกายที่แข็งแรงขึ้น หน้าตาแจ่มใส สามารถรับภาระได้อีกหนึ่งกระทรวง และกระกรวงกลาโหมก็ทำมาทั้งชีวิตอยู่แล้ว ส่วนนายกฯ หากจะดูทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงกลาโหมตนก็กลัวว่าอาจจะนอนไม่ถึง 1 ชั่วโมง ห่วงเรื่องสุขภาพ
ถามว่าพรรคเล็กสนใจรมต.บ้างหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ช่วงนี้ไม่ใช่เวลา เพราะมีการปรับครม.ไปแล้ว ส่วนที่รมว.คลังลาออกไปย้ำว่านายกฯเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจอยู่แล้วในเรื่องการเซ็นกู้เงิน หากเป็นรมต.คนนอกที่มีจากภาคธุรกิจอาจจะมีความกลัว แต่ถ้ามาจากฝ่ายการเมืองที่ดูแลรมว.คลังก็จะกล้าเซ็น ไม่กังวลสิ่งที่เซ็นไปแล้วว่าจะเกิดผลกระทบในภายหลัง เพราะต้องเข้าใจว่าเราไม่มีเงิน และรมว.การคลังมีหน้าที่เซ็นเอกสารเพื่อหาแหล่งเงินอื่นชดเชยการขาดดุลงบประมาณหรือมากู้เงิน 3 ฉบับ
ดังนั้นคนที่มาจากภาคธุรกิจจะกังวล ไม่รู้กฎหมายคงกลัวจะเกิดความเสียหายหรือมีปัญหา แต่เรื่องสุขภาพก็มีปัญหาในการตัดสินใจในการบริหารราชการแผ่นดินรวมด้วย ดังนั้นควรจะหารมต.หนุ่มๆ ส่วนนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลังมีความเหมาะสมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่พรรคพลังประชารัฐเรื่องความรู้ความสามารถ แต่ตนเชื่อว่าความใจกล้าในการเซ็นเงินกู้มีอย่างแน่นอน เพราะอายุเกิน 70 ปีแล้ว อย่างไรก็ตามในส่วนที่พรรคเล็กมองว่านายสันติ จะเป็นรมว.คลังก็ได้ แต่ประชาชนจะยอมรับหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง
ส่วนจะดีกว่าที่นายกฯนั่งควบหรือไม่นั้น ตนมองว่านายกฯบริหารงานมา 6 ปีแล้ว และเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ประเทศจะไปข้างหน้าหรือถอยหลัง จะเสียหายอย่างไรนายกฯก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งวันนี้เรายังหารมว.ที่หาเงินเก่งๆยังไม่ได้ทั้งวันนี้ยังปัญหาเฉพาะหน้าไม่มีเงิน และเงินขาดดุล