สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้มีหญิ อายุ 24 ปี เสี่ยวจาง ทำงานโรงงานแห่งหนึ่ง ในมณฑลหางโจว ประเทศจีน เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมาเขาได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งผ่านทาง แอป WECHAT โดยผู้ชายคนนั้นได้แนะนำให้เธอมาทำศัลยกรรมที่คลินิกแห่งนี้ เธอจึงตัดสินใจทุ่มเงินเพื่อเปลี่ยนโฉมหน้า แต่กลับไม่ได้ดังใจฝัน!!
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เสี่ยวจางทำงานโรงงาน มณฑลหางโจว มีเงินเดือนรายเดือน 3,000 หยวน (ประมาณ 15,000 บาท) หลังจากที่ได้รู้จักกับเพื่อนชายผ่านแอป WECHAT เพื่อนคนนี้ก็พยายามแนะนำไปทำศัลยกรรมที่คลิกนิกแห่งนี้ และยังบอกว่าให้ไปผ่าตัดทำตาสองชั้น สุดท้ายเธอหลงเชื่อคำชักจูงของเขา ยอมเสียเงินกว่า 30,000 หยวน (ราว 150,000 บาท) เพื่อทำผ่าตัดทำตาสองชั้น แต่เพราะไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น จึงตัดสินใจผ่อนจ่าย เป็นงวดๆไป
แต่เมื่อทำเสร็จ เสี่ยวจางกลับรู้สึกว่า ผลลัพท์ที่ได้ไม่น่าพึงพอใจ เพราะก่อนทำและหลังทำหน้าตาไม่ได้แตกต่างมากนัก รู้สึกทำให้ยิ่งเสียใจ จึงฟ้องร้องขอเงินคืน แต่คลิกนิกไม่ยอม เสี่ยวจางยังบอกอีกว่า “หลังจากที่ทำเสร็จมา 1 เดือนก็มีรอยแผลเป็นที่ใหญ่มาก จนดูออกชัดเจน แถมยังทำให้รู้สึกเจ็บที่ดวงตาอีกด้วย ยิ่งคิดยิ่งทำให้โกรธ และไม่อยากจ่ายชำระเงินงวดต่อไป”
ภายหลังทำเสร็จ 1 เดือนก็ได้รับจดหมายแจ้งให้ไปชำระเงิน แต่เสี่ยวจางบอกว่า “ตอนนี้กำลังรู้สึกแย่มาก ไม่อยากสนใจอะไรทั้งนั้น” ในตอนนี้เสี่ยวจางไม่ไปชำระเงินตามที่กำหนดหลายงวดแล้ว รวมๆกับดอกเบี้ยที่ค้างจ่าย เพิ่มเป็นเงิน 39,000 หยวน (ราว 195,000 บาท)
ด้านผู้อำนวยการคลินิกออกมาชี้แจงว่า “ชายที่แนะนำเธอมาทำศัลยกรรม ทางเราก็ไม่รู้จักเลย และส่วนการขอจ่ายเป็นงวดๆ กับธนาคารนั้นก็เป็นเสี่ยวจางเป็นคนดำเนินการ และเซ็นตกลงเอง พวกเราทำตามราคาที่เธอตกลงไว้ เงินเราคืนให้ไม่ได้จริงๆ ส่วนเรื่องก่อนทำและหลังทำไม่มีความแตกต่างนั้น ไม่จริง! เพราะดูซิ ตาเธอดูโตขึ้น เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย มองด้วยตาเปล่าก็สังเกตได้ และเรื่องแผลเป็นนั้น มันขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน การกินและการใช้ชีวิตหลังจากทำการผ่าตัด เพราะฉะนั้นมันฟังไม่ขึ้นหากจะขอเงินคืนนะ”
ทำให้เพื่อนชาวเน็ตจากหลายๆประเทศเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า
“ผมว่าเธอควรจะไปจัดฟันมากกว่านะ”…
“การที่ผู้หญิงคนนี้ไม่ยอมจ่ายเงินนะถูกแล้ว เพราะทางคลินิกไม่ได้แนะนำว่าควรทำอย่างอื่นมากกว่าตา “…
“แสนห้า ทำได้แค่นี้เองหรอ แพงมาก แบบนี้ใครก็ไม่อยากได้หรอก”…
“ข่าวนี้ยิ่งกว่าพวกมิชฉาชีพเสียอีก ทำร้ายจิตใจ ทำร้ายร่างกาย เจ็บยิ่งกว่า”…
ได้ฟังเรื่องราวแล้วก็น่าสงสารสาวจีนรายนี้นะคะ ต้องระวังกันหน่อยนะคะสมัยนี้พสกมิจฉาชีพเยอะมาก เจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งใจ เกินบรรยาย
Cr.LIEKR
สำนักข่าววิหคนิวส์