เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #เด็กธนาธร เพ้อ ! เลือกตั้งคราหน้าไร้ชื่อประยุทธ์ อ้างลุงป้อมอยากลงหนังสือ

#เด็กธนาธร เพ้อ ! เลือกตั้งคราหน้าไร้ชื่อประยุทธ์ อ้างลุงป้อมอยากลงหนังสือ

1 August 2022
285   0

   1 ส.ค.2565-นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thanapol Eawsakul ว่า ฟันธง เลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่มีชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

รวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาล เช่นภุมิใจไทย หรือ ประชาธิปัตย์ ก็จะรังเกียจไม่ประกาศว่าจะร่วมรัฐบาลกับประยุทธ์ จันทร์โอชาด้วย
…………………
ถึงนาทีนี้โอกาสที่ ประยุทธ์ จันทร์โอชา (2497) จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้า 2566 ซึ่งตอนนั้นประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอายุ 69 ปี เข้าไปแล้ว

สำหรับผมแล้วโอกาสน้อยมากหรือแทบจะไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ประยุทธ์ จันทร์โอชาจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีก

ด้วยเหตุผลต่าง ๆ

  1. สังขารและท่าทีของ ประวิตร วงษ์สุวรรณ (2488) นั่งร้านสำคัญของประยุทธ์ จันทร์โอชา

ซึ่งในปี 2566 ประวิตรจะมีอายุ 78 ปี เข้าไปแล้ว ไม่เพียงแต่สังขารของประวิตรเองที่แทบจะเดินไม่ไหว แต่ที่สำคัญคือนักการเมืองอย่างประวิตรทราบดีว่า การลงอย่างหลังเสืออย่างปลอดภัยไม่ให้เสือกัด คืออย่าไปทะเลาะกับเสือ
ถ้าจะลงสนามเลือกตั้งในปี 2566 ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเปิดศึกกับพรรคฝ่ายค้านทั้ง เพื่อไทย ก้าวไกล หรือแม้กระทั่งเสรีรวมไทย

ดังนั้นถ้าแพ้ในสนามเลือกตั้งก็ยากที่จะไม่ถูกเช็คบิล

ดังนั้นนกรู้อย่างประวิตรก็เลี่ยงจะขึ้นเวที หรือไม่อย่างนั้นก็จะ “ล้มมวย”

เมื่อประวิตร ไม่คิดจะสู้ คนอย่างประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทั้งชีวิตไม่เคยสู้อะไรนอกจากรบกับคนเสื้อแดง ก็ไม่กล่าออกมาสู้เช่นกัน

ส่วนอนพงษ์ เผ่าจินดานั้นเล่า แค่ให้ ส.ส.ปากน้ำยกมือให้ยังทำไม่ได้เลย จะมีน้ำยาอะไรมาอุ้มประยุทธ์

คนอย่างประวิตร ไม่โง่ขนาดที่เอาเงินที่เก็บมาทั้งชีวิตจะต้องถูกยึดทรัพย์ไปง่าย ๆ หรอก สู้แตะมือยอมแพ้เสียดีกว่า

  1. ความนิยมของประยุทธ์ ตกต่ำอย่างมาก และไม่มีทางกลับขึ้นมาอีกแล้ว

นิด้าโพล เป็นโพลทางการเมืองที่ทุกสำนักจับตามอง

ถ้าเราดูคะแนนความนิยมในตัวประยุทุธ์จะเห็นว่านับวันมีแต่ต่ำลง

2563
ไตรมาส 1/2563 ความนิยม 23.74 %
ไตรมาส 2/2563 ความนิยม 25.47%
ไตรมาส 3/2563 ความนิยม 18.64%
ไตรมาส 4/2563 ความนิยม 30.32%

2564
ไตรมาส 1/2564 ความนิยม 28.79 %
ไตรมาส 2/ 2564 ความนิยม 19.32%
ไตรมาส 3 /2564 ความนิยม 17.54%
ไตรมาส 4/2564 ความนิยม 16.93%

2565
ไตรมาส 1/ 2565 ความนิยม 12.67%
ไตรมาส 2/2565 ความนิยม 11.68%

ในปี 2563 เพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่คะแนนประยุทธ์ต่ำกว่า 20 % คือได้เพียง 18.64% ไตรมาส 3/2563 เนื่องจากการระบาดโควิดในรอบแรก ซึ่งถือว่าเป็นวิกฤติที่สุดนับตั้งแต่รัฐประหาร 2557
แต่รัฐบาลก็สามารมคุมได้ในไตรมาส 4 ตอนต้น คะแนนจึงกลับมาที่ 30.32%
(แต่การสำรวจนั้นเร็วไปเพราะโควิดระรอก 2 มาระบาดวันที่ 20 ธันวาคม 2563)

ดังนั้นในปี 2564ทั้งปี คะแนนความนิยมของประยุทธ์ จึงลดต่ำลงทุกไตรมาส นับจาก 28.79 % , 19.32%, 17.54%, 16.93%

เมื่อเข้าสู่ปี 2565 ก็ยังไม่กระเตื้องอีก

2 ไตรมาสแรก 12.67% และ 11.68% ตามลำดับ

คาดว่าในไตรมาส 3/2565 คะแนนนิยมของประยุทธ์ จันทร์โอชาจะต่ำกว่า 10 % เมื่อถึงเวลานั้นนักการเมืองในพรรคพลังประชารัฐก็หาที่อยู่ใหม่กันเรียบร้อยแล้ว

ดังนั้นเมื่อมีซากหมาตายลอยน้ำอยู่ บรรดาเห็บบนซากหมาตาย

ไม่ว่าจะเป็นคนในพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคร่วมรัฐบาลก็จะกระโดดหนีตายออกมาก่อน

คนที่จะเหลือกับประยุทธ์คือพวกที่ไปไหนไม่ได้

ไม่ว่าจะเป็น “แรมโบ้” เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และบรรดา กปปส. เดนตายเท่านั้น

ในตอนนี้ประยุทธ์ก็ต้องทำใจดีสู้เสือไปก่อน พอถึงเวลาจะเหมือนกับจักรทิพย์ ชัยจินดา ก็ขอถอนตัวเสียดื้อ ๆ

  1. บรรดา ส.ว.นกรู้ก็จะออกมาประกาศว่าจะไม่โหวตให้ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกอีกต่อไปแล้ว ไม่จำเป็นต้อง 250 คนพร้อมเพียงกันเพียงแต่มีบางคนออกมาก็ป่วนแล้ว ส.ว. เหล่านั้นไม่ใช่เพิ่งดวงตาเห็นธรรม แต่ก็เหมือนกับ ส.ส.พลังประชารัฐนั่้นแหละ พอหมาตาย เห็บก็กระโดดออกมาทันที

มาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่จำเป็นต้องแก้ในทางนิตินัย เพราะในทางพฤตินัยก็แก้แล้ว

สำหรับชนชั้นนำ ทางที่ดีที่สุดเพื่อให้ประยุทธ์ แลนดิ้งได้อย่างสวยงาม คือการให้ศาลรัฐธรรมรนูญวินิจฉัย ว่าเป็นนายกได้ไม่เกิน 8 ปี ซึ่งอาจจะวินิจฉัยไม่เร็วนัก อาจะหลังงานเอเปคไปก่อน
…………..
สถานีต่อไปของประยุทธ์ จันทร์โอชา น่าจะเป็นองคมนตรี เหมือนดัง ธานินทร์ กรัยวิเชียร และเปรม ติณสูลานนท์