เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (18 ก.ค.64) ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ พากันขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน รวมทั้งกลุ่มรถตู้และตุ๊กตุ๊กรวมตัวจัดกิจกรรม “ด่วนนครพิงค์เชียงใหม่ ไล่ประยุทธ์ “ เคลื่อนขบวนรถรวมแล้วกว่า 500 คัน ออกจากบริเวณหน้าโชตนา ก่อนวนรอบคูเมือง ไปรวมตัวกันที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ระหว่างทางมีการชูสามนิ้ว โบกธง และ บีบแตรรถเป็นสัญญาณในการขับไล่รัฐบาล ระหว่างทางมีประชาชนที่เห็นด้วย ออกมาร่วมชูสามนิ้วและโบกมือให้กำลังใจ
โดยกิจกรรมครั้งนี้ นายหาญศักดิ์ เบญจศรีพิทักษ์ หรือ ด.ต.พิชิต ตามูล ผู้ประสานงานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.17 จังหวัดภาคเหนือ อยู่บนรถประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง เชิญชวนชาวเชียงใหม่ออกมารวมพลังกันขับไล่พลเอกประยุทธ์ ก่อนที่จะไปรวมตัวกันที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อ่านแถลงการณ์บอกเล่าถึงความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พร้อมประณามถึงความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาโรคระบาดของรัฐบาล รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ โดยเฉพาะในประเด็นการจัดหาวัคซีนที่ล่าช้า ทำให้ประชาชนจำนวนมากยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงขึ้นทำนิวไฮรายวัน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ลาออกโดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้านโดยไม่มีความรุนแรง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่นายหาญศักดิ์ บอกว่า การรวมตัวครั้งนี้มาจากความอัดอั้นตันใจของประชาชน ทำให้พร้อมใจกันออกมาแสดงพลัง ซึ่งในวันนี้ไม่มีสีเสื้อ แต่เป็นพลังของคนไทยทุกคนที่เดือดร้อนอย่างแสนสาหัสจากการบริหารสถานการร์โรคโควิด 19 ของรัฐบาล
ก่อนหน้าที่จะจัดกิจกรรมในวันนี้ คณะกรรมการโรคจังหวัดเชียงใหม่ มีคำสั่งห้ามรวมตัวจัดงานตามประเพณีนิยมหรือกิจกรรมใด ๆ เกิน 50 คน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 17 – 31 กรกฎาคม 2564 ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่มีการเลื่อนจัดกิจกรรมแต่อย่างใด ขณะที่ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ซึ่งเป็นท้องที่จุดรวมตัวก่อนเคลื่อนขบวน เข้าชี้แจงกับกลุ่มผู้ชุมนุม ขอความร่วมมือให้จัดกิจกรรมภายใต้กรอบกฎหมาย ส่วนขณะที่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ ได้เข้ามาให้คำแนะนำในการปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุข เน้นย้ำให้สวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในการชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการรวมตัวครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวกันครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่รูปแบบการรวมตัวเป็นการอยู่ที่รถของตัวเองและมีการสวมหน้ากากอนามัยป้องกันตัวเองกันทุกคน