ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ห่างจากตัวเมืองสุรินทร์ ประมาณ 14 กิโลเมตร มีแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่สำคัญ คือชุมชนโบราณบ้านพระปืด หมู่ 2 ต.บ้านแร่ อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์
แนวหน้า- เป็นชุมชนที่มีกำแพงเมืองโบราณล้อมรอบ 2 ชั้น และยังมีเรื่องราวและตำนานของพระศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวบ้านนิยมมากราบไหว้ขอพระและยกองค์หลวงพ่อเพื่อเสี่ยงทาย
โดยหลวงพ่อพระปืดแห่งวัดปราสาทแก้วเป็นพระพุทธรูปศิลาทรายสีแดง ประทับนั่งสมาธิราบ ปางสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 35 เซนติเมตร สูง 54 เซนติเมตร เป็นพระพุทธรูปศิลปะล้านช้างแบบพื้นถิ่นอีสาน สันนิษฐานว่าสร้างสมัยพุทธศวรรษที่ 23
พระครูสถิตวรรัตน์ เจ้าอาวาสวัดปราสาทแก้ว เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยก่อนได้ถูกโจรขโมยไป ถึง 2 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถนำไปได้ ครั้งแรกชาวบ้านเจอองค์หลวงพ่อที่คลองข้างถนน เป็นลักษณะเหมือนปลาตัวใหญ่ผุดว่าย แต่หลังจากพากันวิดน้ำเพื่อเอาปลากลับก็เจอองค์หลวงพ่อพระปืดที่หายไป ส่วนครั้งสองเจออยู่ในถุงกระสอบปุ๋ย ชาวบ้านไปทำนาเดินตามคันนาผ่านไปแล้ว แปลกใจว่าถุงปุ๋ยมีอะไรคือว่าเป็นปลาเหมือนดิ้นได้ จึงตัดสินใจเปิดกลับเจอเป็นหลวงพ่อพระปืดที่หายไปนับเดือน จึงได้พากันนำพระปืดมาไว้ที่วัด ตั้งแต่นั้นมาเจ้าอาวาสจึงได้นำไว้บนกุฎิ เพราะกลัวโจรจะลักขโมยไปอีก
ทั้งนี้ หลวงพ่อพระปืดเป็นพระศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจของชาวบ้าน ผู้คนส่วนมากจะเดินทางมากราบนมัสการ ขอพรท่านและเสี่ยงทายโดยการยกองค์ท่าน ขั้นตอนเพียงจุดธูป 3 ดอก ก้มลงกราบ 3 ครั้ง แล้วนั่งพนมมือตั้งจิตอธิษฐานเสี่ยงทาย โดยนั่งคุกเข่าใช้สองมือยกองค์พระ ซึ่งหลักการยกองค์พระโดยส่วนมากจะนิยมยก 3 ครั้ง
โดยยกครั้งแรกเป็นการขอยกดูน้ำหนักท่านก่อน เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างในการยกครั้งต่อไป ครั้ังที่สองเป็นการอธิษฐาน ว่าถ้าสิ่งที่เป็นไปได้ดั่งคำที่เราอธิษฐานนั้นๆ ก็ขอให้ยกองค์หลวงพ่อนั้นขึ้นได้ เมื่ออธิฐานเสร็จแล้วก็ยกขึ้น หลังจากนั้นในครั้งที่สาม เป็นการอธิษฐานแบบเดิม แต่ครั้งนี้ถ้าเป็นไปดั่งคำอธิษฐาน ก็ขออย่าให้ยกองค์หลวงพ่อขึ้นได้ หลังจากยกทั้่งสามครั้งแล้ว ก็จะเห็นความแตกต่างทันทีที่เราได้อธิษฐานไป
สำนักข่าววิหคนิวส์