เอเอฟพี – รัสเซียและสหรัฐฯ เห็นพ้องให้มีการบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของซีเรีย โดยจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันอาทิตย์ที่ 9 ก.ค. เป็นต้นไป
เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงวานนี้ (7) ว่า “วันนี้ที่กรุงอัมมาน ผู้เชี่ยวชาญจากรัสเซีย อเมริกา และจอร์แดนได้จัดทำบันทึกความเข้าใจ เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดความรุนแรง” ขึ้นในเขตการปกครองดารา (Daraa), กูเนตรา (Quneitra) และสเวดา (Sweida)
“ข้อตกลงหยุดยิงจะถูกบังคับใช้ในพื้นที่เหล่านี้ตั้งแต่เที่ยงของวันที่ 9 ก.ค. ตามเวลากรุงดามัสกัส”
ลาฟรอฟ ได้เดินทางไปร่วมการประชุมซัมมิต G20 ที่นครฮัมบวร์กของเยอรมนี และร่วมอยู่ในวงสนทนาแบบตัวต่อตัวครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ
ข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้ยังครอบคลุมพื้นที่ซึ่งเคยถูกกองทัพอิสราเอลยิงถล่มแก้แค้น หลังมีกระสุนลูกหลงจากการสู้รบระหว่างกองทัพซีเรียกับฝ่ายกบฏลอยไปตกในที่ราบสูงโกลัน (Golan Heights) ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอล
รัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรกับประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ได้ร่วมกับตุรกีและอิหร่านผลักดันการสร้างเขตปลอดความรุนแรงขึ้น 4 แห่งในซีเรีย ทว่าผลการเจรจาที่กรุงอัสตานาของคาซัคสถานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังไม่สามารถตกลงเรื่องขอบเขตที่แน่นอน รวมถึงการจัดกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่
ลาฟรอฟ ระบุว่า ข้อตกลงหยุดยิงที่จะเริ่มพรุ่งนี้ (9) จะมีสารวัตรทหารรัสเซียกำกับดูแล “โดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายจอร์แดนและอเมริกัน”
เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันข้อตกลงดังกล่าว พร้อมระบุว่าสหรัฐฯ กับรัสเซียใช้เวลาพุดคุยกันอย่างยาวนานเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันในซีเรีย และพร้อมที่จะร่วมมือกันยุติเหตุนองเลือดในพื้นที่ หลังจากที่ปราบพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) ลงได้แล้ว
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ คนหนึ่งให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับแผนหยุดยิง โดยระบุว่า “ถ้าจะแสวงหาทางออกให้กับความขัดแย้งในซีเรีย เราทั้งสองชาติจะต้องมีส่วนร่วม… รัสเซียลงทุนลงแรงไปมากกับสงครามครั้งนี้ เราต่างต้องการให้มันจบเพื่อยุติความทุกข์ทรมาน ความรุนแรง คลื่นผู้อพยพ และการแพร่กระจายของแนวคิดสุดโต่ง ซึ่งล้วนเป็นผลมาจากสงครามซีเรีย”
รัฐบาลจอร์แดนยืนยันว่า พวกเขามีส่วนร่วมใน “ข้อตกลงไตรภาคี” ซึ่งทำร่วมกับรัสเซียและสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ไมเคิล ฟอลลอน ยังแสดงท่าทีกังขากับข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้ หลังจากที่เคยล้มเหลวมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
“เราพอใจกับข้อตกลงหยุดยิง แต่ก็ต้องรอดูว่ามันจะใช้ได้ผลจริงในพื้นที่ปลอดความรุนแรงที่ถูกประกาศหรือไม่… อย่าทำให้พลเรือนต้องเข้าใจผิด ถ้ามันถูกบังคับใช้อย่างสมบูรณ์แบบได้ก็เป็นเรื่องดี และองค์การสหประชาชาติก็จะสามารถส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปได้” ฟอลลอน กล่าว
ด้านกองทัพซีเรียได้ประกาศยุติการสู้รบฝ่ายเดียวในเขตการปกครองดารา, กูเนตรา และสเวดา ตั้งแต่วันจันทร์ (3) โดยมาตรการหยุดยิงได้หมดอายุลงไปเมื่อช่วงเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดี (6)
ที่มา : http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000069569
