อดีต ส.ส.กทม.ประชาธิปัตย์ ค้านหอชมเมืองกรุงเทพฯ อ้างอยู่ในพื้นที่กลุ่มทุน เป็นที่ตาบอดเข้าได้แค่ทางน้ำ บางส่วนถูกล้อมทำเขื่อนป้องกันน้ำท่วม รอดูกรมธนารักษ์เลี่ยงกฎหมายอย่างไร แนะรัฐบาลสร้างเอง
วันนี้ (1 ก.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการก่อสร้างหอชมเมืองว่า ตนไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว เพราะได้ลงไปสำรวจพื้นที่บริเวณที่จะมีการก่อสร้างพบว่าอยู่ในบริเวณระหว่างซอยเจริญนคร 7 และบริเวณพื้นที่ของกลุ่มทุน อีกทั้งเป็นพื้นที่ตาบอดสามารถเข้าออกทางน้ำได้ทางเดียว นอกจากนี้ยังพบว่าที่ดินของกรมธนารักษ์ 4 ไร่ 2 งาน 32 วา บางส่วนถูกล้อมกั้นที่เพื่อทำเป็นเขื่อนป้องกันน้ำท่วม จึงเหลือพื้นที่ 3 ไร่ 72 วา ในการก่อสร้าง และตามกฎหมายระบุไว้ว่าบริเวณที่น้ำท่วมถึงจุดสูงสุดให้ถือว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ลำน้ำ ฉะนั้นถ้าจะก่อสร้างต้องไปถมที่ จากนี้คงจะต้องรอดูว่ากรมธนารักษ์จะใช้วิธีหลบเลี่ยงกฎหมายอย่างไร ซึ่งถ้ากรมธนารักษ์ดำเนินการก็จะต้องผิด พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2560 และ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ใช่หรือไม่
“ผมมั่นใจว่าเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่รู้เรื่องและไม่ทราบข้อมูล เพราะคนที่นำโครงการไปเสนอ ไม่อธิบายให้ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นอย่างนี้ และยังพบว่ารายชื่อกรรมการมูลนิธิหอชมเมืองตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมูลนิธิเกี่ยวโยงกับธุรกิจของกลุ่มทุนบางแห่ง ไม่มีการประมูลที่ดินราชพัสดุ จากกรมธนารักษ์ ฉะนั้นถ้าอยากให้หอชมเมืองเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไม่ควรไปสร้างในพื้นที่ตาบอด พื้นที่มุมอับ ผมจึงเห็นว่ารัฐบาลควรจะลงทุนเองโดยเสนอให้ใช้พื้นที่ราชพัสดุที่เหมาะสมในการก่อสร้างให้มีความโดดเด่น และน่าภาคภูมิดีกว่าที่จะหลบๆ ซ่อนๆ เอื้อประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” นายวิลาศกล่าว
ที่มา : https://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9600000067066