วันนี้ (9 ธ.ค.2564) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีการรับตัวนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องขังในคดีล่าสัตว์ป่าในเขตทุ่งใหญ่ ซึ่งศาลตัดสินจำคุก 2 ปี 14 เดือน
โดยวันนี้ เบื้องต้นนายเปรมชัย มีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว 3 ครั้ง และช่วงเช้าวันนี้ แพทย์จากโรงพยาบาลทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้เข้าตรวจรักษาอาการ ผลการตรวจร่างกายโดยทั่วไป พบว่าไม่มีไข้ อุณหภูมิร่างกาย 36.8 องศาเซลเซียส ชีพจร 87 ครั้งต่อนาที หายใจ 20 ครั้งต่อนาที ความดัน 160/90 มิลลิเมตรปรอท ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด 124 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น
ผลตรวจลำไส้อักเสบเฉียบพลัน-รอผลเลือดติดเชื้อหรือไม่
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า จากการตรวจ และรักษาอาการถ่ายเหลว พบว่าหน้าท้องนุ่ม มีอาการปวดท้องเล็กน้อยบริเวณด้านขวาล่าง แพทย์วินิจฉัยว่า มีอาการของโรคลำไส้อักเสบเฉียบพลัน ซึ่งได้ดูแลให้ยาปฏิชีวนะระบบทางเดินอาหาร เกลือแร่ และให้รับประทานอาหารอ่อนในระยะนี้
พร้อมได้เจาะเลือดส่งตรวจเพื่อดูค่าการติดเชื้อ การทำงานของไต และค่าเกลือแร่ในร่างกาย (CBC, BUN, Cr, Electrolyte) ยังอยู่ระหว่างรอผลการตรวจอีกครั้ง
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ส่วนผลการตรวจและรักษาตาซ้ายหลังการผ่าตัดต้อกระจก เบื้องต้นพบว่าไม่มีอาการแดง มีอาการคันตาซ้ายเล็กน้อย แพทย์ได้แนะนำให้หยอดตาทุก 4 ชั่วโมง ห้ามขยี้ตา
ส่วนการตรวจและรักษาโรคเส้นเลือดดำที่ขาอุดตัน แพทย์ได้ตรวจขาทั้ง 2 ข้าง พบผิวหนังที่ขาทั้งสองข้างสีดำคล้ำ ปวด บวม กดแล้วบุ๋มประมาณ 2 มม. มีแผลเรื้อรังที่ขาข้างซ้าย ขนาด 2×2 ซม. ซึ่งได้ให้การรักษาอาการทำแผลวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สถานพยาบาลเรือนจำอำเภอทองผาภูมิ ได้ดูแลอาการของผู้ต้องขังอย่างใกล้ชิด พร้อมให้การดูแลรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์ ซึ่งเป็นสิทธิที่ผู้ต้องขังทุกรายพึงได้รับ
โดยแพทย์ได้แนะนำให้สังเกตอาการเพิ่มเติม หากพบว่ามีอาการหน้าท้องแข็ง ปวดท้อง ถ่ายเหลวเพิ่ม อาเจียน เหนื่อยและอ่อนเพลียมากขึ้น รวมถึงมีอาการตาแดง คันตา หรือมองเห็นภาพลดลงให้แจ้งเจ้าหน้าที่หรือพยาบาลประจำเรือนจำได้ทันที
พบป่วย 7 โรค-ยังไม่จำเป็นต้องหารพ.นอกพื้นที่
นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า แพทย์ประจำเรือนจำอำเภอทองผาภูมิ ตรวจสอบอาการเจ็บป่วยที่มีอยู่ว่าจะสามารถควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจําทองผาภูมิได้หรือไม่ เบื้องต้นพบว่ามีอาการของโรคเบาหวาน ความดันโลหิต โรคหัวใจ ไขมันพอกตับต้อกระจก และโรคอื่นๆรวม 7 โรค
จากการตรวจของแพทย์ล่าสุดให้คำวินิจฉัยว่านายเปรมชัยยังไม่มีความจำเป็นต้องออกไปทำการรักษาตัวนอกเรือนจำอำเภอทองผาภูมิ เนื่องจากอาการต่างๆที่เป็นอยู่ยังเป็นอาการเบื้องต้นที่สามารถรับประทานยาโรคประจำตัวที่ผู้ต้องขังนำมาด้วยและที่ทางเรือนจำมีอยู่ได้
จากการสอบถามนายเปรมชัย และพวกทั้งหมดยังไม่ขอไปทำการรักษานอกเรือนจำ และไม่ได้เรียกร้องสิ่งใดเพิ่มเติม
ทั้งนี้ระเบียบของกรมราชทัณฑ์ เรื่องการอนุญาตให้นำตัวผู้ต้องขังไปรักษายังสถานพยาบาลอื่นนอกเรือนจำ จะขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของแพทย์ประจำเรือนจำ ว่าจะมีความเห็นว่าอย่างไร หาดมีดุลพินิจเห็นว่าอุปกรณ์การแพทย์ และเวชภัณฑ์ที่มีอยู่ไม่สามารถจะทำการดูแลรักษาได้ ก็จะนำตัวไปรักษาต่อยังสถานพยาบาลนอกเรือนจำ
จะมีตั้งแต่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ที่กรุงเทพฯ หากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังไม่สามารถทำการรักษาได้อีก ก็จะพิจารณาส่งต่อไปยังสถานพยาบาลอื่นทั้งรัฐและเอกชน ไม่ได้มีเฉพาะเจาะจงเพียงแค่สถานพยาบาลภายในจังหวัดที่เรือนจำตั้งอยู่เท่านั้น แต่อาจอยู่นอกพื้นที่ก็ได้ หากมีความพร้อมด้านบุคลากรทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ในการดูแลรักษาผู้ต้องขัง ซึ่งในระหว่างทำการรักษาจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คอยเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้หลบหนีหรือทำผิดระเบียบ