โควิด: วันที่ 15 ก.ค. บีบีซี รายงานว่า สิงคโปร์พบการระบาดพุ่งสูงขึ้นในคลัสเตอร์ หรือกลุ่มก้อนการระบาดของโควิด-19 ล่าสุด จากเลานจ์คาราโอเกะ ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่มีความเชื่อมโยง 42 คน ซึ่งอยู่ในจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันภายในประเทศ 56 คน ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาของวันพุธที่ 14 ก.ค. นับเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดของสิงคโปร์ในรอบ 10 เดือน
ขณะเดียวกัน ยอดผู้ติดเชื้อที่มีความเชื่อมโยงกับเลานจ์คาราโอเกะอย่างน้อย 3 แห่ง ได้แก่ ซูพรีม เคทีวี เอ็มเพรสส์ เคทีวี และคลับ ดอลเช ซึ่งปิดบริการชั่วคราวไปแล้ว เพิ่มเป็น 54 คน กลายเป็นคลัสเตอร์ที่มีผู้ติดเชื้อต่อเนื่องขนาดใหญ่ที่สุด หรือแอกทีฟ คลัสเตอร์ ของสิงคโปร์
ผู้ติดเชื้อคนแรกจากคลัสเตอร์ล่าสุดเป็นหญิงพนักงานต้อนรับเลานจ์คาราโอเกะ สัญชาติเวียดนาม ถือบัตรเพื่ออาศัยอยู่ในสิงคโปร์ระยะสั้น ทางการพบว่า หญิงคนดังกล่าวไปมาร้านคาราโอเกะหลายแห่ง และผู้ติดเชื้อบางคนอาศัยอยู่ในที่พักเดียวกับหญิงคนนี้ด้วย
กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ระบุว่า กำลังสอบสวนโรคกลุ่มพนักงานต้อนรับหญิงชาวเวียดนามที่เคยไปมาเลานจ์ดังกล่าว โดยเสริมว่าจะสอบสวนโรคผู้ติดต่อใกล้ชิดกับพนักงานเหล่านี้ด้วย พร้อมขอให้ผู้ติดต่อใกล้ชิดกับพนักงาน หรือผู้มาเยือนเลานจ์คาราโอเกะ 3 แห่งดังกล่าว มาเข้ารับการตรวจหาเชื้อโดยไม่มีค่าใช้จ่ายและการเปิดเผยตัวตนทั้งสิ้น
“เราทราบเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิงยามค่ำคืนเช่นนี้ในเกาหลีและในฮ่องกง คนสัมผัสใกล้ชิดกันอย่างมาก บางคนเป็นพนักงานต้อนรับ และนำไปสู่คลัสเตอร์ขนาดใหญ่ เราจึงห้ามกิจกรรมดังกล่าวมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้น่าหนักใจและน่าผิดหวัง” นายออง เย คุง รัฐมนตรีสาธารณสุขสิงคโปร์ กล่าว
คลัสเตอร์ล่าสุดมีขึ้นขณะที่สิงคโปร์ทยอยผ่อนมาตรการจำกัด โดยอนุญาตให้ประชาชนเจอกันเป็นกลุ่มใหญ่มากขึ้น และยกเลิกข้อจำกัดบางประการในการรับประทานอาหารที่ร้าน
ทั้งนี้ สถานบันเทิงยามค่ำคืนของสิงคโปร์ รวมถึงไนต์คลับและร้านคาราโอเกะ ปิดบริการตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563 เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวด อย่างไรก็ตาม บางส่วนได้รับอนุญาตเปิดต่อไปโดยเปลี่ยนเป็นร้านอาหารและเครื่องดื่มแทน