ข่าวประจำวัน » เป็นเรื่องแล้ว !! กกต.ยัน พรรคถิ่นกาขาวยังไม่ส่งเรื่องมาเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคประชาชน

เป็นเรื่องแล้ว !! กกต.ยัน พรรคถิ่นกาขาวยังไม่ส่งเรื่องมาเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคประชาชน

14 August 2024
16   0

เมื่อวันที่ 14 ส.ค.2567 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีมีการยื่นให้กกต. ตรวจสอบการตั้งสาขาพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ที่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นพรรคประชาชนว่าในอดีตมีการจัดตั้งครบ 4 สาขาในแต่ละภาคเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 1 ปีจริงหรือไม่ว่า ตามกฎหมายแล้วความเป็นพรรคการเมือง มีอยู่ 3 ลักษณะ

1.ความเป็นพรรคการเมืองเกิดขึ้นทันทีในวันที่จดทะเบียนจัดตั้ง ซึ่งเวลานั้นพรรคอาจยังไม่มีสาขาพรรค มีสมาชิกไม่ครบ แต่พรรคสามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆได้ทันที รวมถึงรับบริจาคได้ โดยพรรคจะต้องหาสมาชิกพรรคให้ได้ไม่น้อยกว่า 5,000 คนและจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองอย่างน้อยภาคละ 1 สาขาภายในกำหนดเวลา 1 ปี

2.พรรคที่มีความสมบูรณ์ คือมีสมาชิก มีสาขาพรรคครบตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดภายในเวลา 1 ปี

3.พรรคที่ดำเนินกิจการไปแล้ว อยู่ๆสาขาพรรคหาย จากหลายสาเหตุ เช่น สมาชิกไม่ครบก็ขอยกเลิกสาขาพรรค แต่กฎหมายให้เวลาจัดตั้งสาขาพรรคในส่วนที่ขาดให้ครบ 4 ภาคภายใน 1 ปี กรณีของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล เมื่อวันที่ 4 เม.ย.67 มีหนังสือแจ้งนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอยกเลิกสาขาพรรค 3 แห่ง เหลือเพียงสาขาภาคเหนือที่จ.เชียงใหม่ เมื่อกฎหมายให้เวลาจัดตั้งสาขาให้ครบภายใน 1 ปีก็คือภายในวันที่ 3 เม.ย.68

ดังนั้น ความเป็นพรรคการเมืองยังคงอยู่ เมื่อพรรคก้าวไกล ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคและสมาชิกย้ายมาอยู่พรรคถิ่นกาขาวชาววิไลแล้วเปลี่ยนชื่อเป็น พรรคประชาชน ไม่ว่าพรรคจะมีสาขาพรรคครบหรือไม่ ยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้โดยผู้บริหารพรรคชุดใหม่ที่เข้ามา ก็ต้องมาจัดตั้งสาขาพรรคให้ครบตามเงื่อนไขภายใน1 ปี ที่กฎหมายเปิดโอกาสให้ ซึ่งต้นเดือนที่ผ่านมา พรรคแจ้งจัดตั้งสาขาพรรคเพิ่มเติมมายังนายทะเบียนฯแล้ว

“นายทะเบียนฯ มีหน้าที่ควบคุมการดำเนินกิจการของพรรคให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งนายทะเบียนฯจะรู้อยู่ตลอดเวลาว่า พรรคไหนมีการเพิ่มลดสมาชิก มีการจัดระดมทุน สาขาพรรคขาด ซึ่งจะมีการแจ้งเตือนก่อนครบกำหนดเวลา จึงไม่ต้องมาตรวจสอบย้อนหลังอะไร”

ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่า พรรคประชาชน ยังไม่มีบัญชีธนาคารของพรรค ผู้รับเงินไม่ใช่พรรค และรับบริจาคโดยวิธีออนไลน์ ผิดกฎหมายหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริงก่อน กฎหมายกำหนดว่าเมื่อพรรคการเมืองรับบริจาคต้องรายงานนายทะเบียนฯ ทราบภายใน15วัน ในส่วนบัญชีธนาคารของพรรค ธนาคารจะไม่ออกเล่มบัญชีให้จนกว่าพรรคนั้นจะได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ที่ผ่านมาพรรคที่จะตั้งขึ้นใหม่จะประสบปัญหานี้ ไม่สามารถนำเงินที่เป็นทุนประเดิมจัดตั้งพรรคเข้าบัญชีได้ แต่ในส่วนของพรรคประชาชน เปลี่ยนชื่อมาจากพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล จึงมีบัญชีธนาคารของพรรคเดิมอยู่แล้ว ซึ่งต้องดูข้อเท็จจริงว่าเขารับบริจาคผ่านเข้าบัญชีนี้หรือไม่ หรือเงินบริจาคเข้าบัญชีชื่ออื่นเพราะอะไร

นายแสวง กล่าวว่า วิธีการรับบริจาคกฎหมายไม่ได้เขียนไว้ ต้องดูว่าข้อบังคับพรรคเขียนอย่างไร ถ้าเขียนว่า รับบริจาคออนไลน์ได้ ก็ทำได้ แต่ก็ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย

“เมื่อได้รับบริจาคไม่น้อยกว่า 5,000 บาทจะต้องออกใบเสร็จให้กับผู้บริจาคภายใน 7 วันตามที่กฎหมายกำหนด และแต่ละเดือนต้องติดประกาศรายชื่อผู้บริจาคให้ประชาชนทราบ รวมถึงแจ้งนายทะเบียนฯทราบด้วย ที่สำคัญ การรับบริจาคไม่ว่าจะรับเงินสดหรือออนไลน์ เงินจำนวนมากหรือน้อย พรรคต้องตรวจสอบคุณสมบัติผู้บริจาคด้วยว่า เป็นบุคคลที่กฎหมายห้ามพรรคการเมืองรับบริจาคหรือไม่ เพราะตรงนี้มีโทษถึงขั้นยุบพรรค”

เมื่อถามว่ามีการคัดค้านไม่ให้นายทะเบียนฯ ตอบรับการเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคประชาชน นายแสวง กล่าวว่า กฎหมายพรรคการเมือง กำหนดหลักเกณฑ์การใช้ชื่อ ชื่อย่อ ภาพเครื่องหมายของพรรคการเมือง ไว้ชัดเจนอยู่แล้ว นายทะเบียนฯ ต้องพิจารณาอยู่บนหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด จะใช้ความรู้สึกมาพิจารณาไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ทางพรรคก็ยังไม่ได้ส่งเรื่องดังกล่าวมา