‘เซ็กส์’ ก็เปรียบเสมือนการออกกำลังกายประเภทหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายรุกหรือรับก็ต้องใช้พละกำลังและพลังงานเช่นกัน โดยส่งผลถึงการสูบฉีดเลือดที่ค่อนข้างรุนแรงและต่อเนื่องตลอดระยะเวลาในการทำกิจกรรม ดังนั้น จึงมีคำถามต่อว่า ถ้าคนที่เป็นโรคหัวใจจะทำอย่างไร สามารถมีเซ็กส์ได้ไหม?
ที่ต้องยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูด ก็เพราะในปัจจุบัน ประชากรส่วนใหญ่เริ่มมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจสูงขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมและการใช้ชีวิตที่ผิดๆ การกินไม่ถูกสุขลักษณะ พักผ่อนไม่เพียงพอ บางคนไม่ยอมออกกำลังกาย ดังนั้น หลายคนจึงตกอยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ อีกทั้งโรคนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนสูงอายุเท่านั้น แต่คนวัยทำงานทั่วไปอย่างเราๆ ก็มีสิทธิ์เป็นได้เช่นกัน
ถ้าไม่นับการใช้พลังงานในการเล้าโลมและเล่นท่าต่างๆ ร่างกายของเราเมื่อใกล้ถึงจุดไคลแม็กซ์จะมีอัตราการเต้นของหัวใจมากถึง 120 ครั้งต่อนาที ซึ่งหมายถึงหัวใจของคุณกำลังทำงานเต้นถี่และแรง อย่างไรก็ตาม ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจเท่าไร เพราะจากข้อมูลที่ได้จากโรงพยาบาลกรุงเทพนั้น นพ.ระพินทร์ กุกเรยา หัวหน้าอายุรแพทย์หัวใจ กล่าวว่า “ถ้าคุณยังเดินขึ้นสะพานลอย 3 ชั้นได้อย่างสบาย ไม่เหนื่อยหอบ คุณก็สามารถปฏิบัติภารกิจรักได้เช่นกัน”
นั่นเท่ากับว่าแม้คุณจะเป็นโรคหัวใจ แต่ถ้ายังเดินและออกกำลังกายเบาๆ ได้โดยที่ไม่เกิดอาการใจสั่น หายใจเร็วจนเหนื่อยหอบ มีอาการเจ็บแน่นหน้าอก การจะมีเพศสัมพันธ์ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลแต่อย่างใด
แต่ตรงนี้ก็มีข้อยกเว้นด้วย… สำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจนั้น แม้ว่าคุณยังสามารถมีเซ็กส์ได้ แต่ก็ต้องระมัดระวังมากกว่าคนปกติ โดยเฉพาะเรื่องของการใช้ยาปลุกอารมณ์ หรือ ‘ไวอากร้า’ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการเล่นท่าทางพิสดาร เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่ออารมณ์และอัตราการเต้นของหัวใจ ดังนั้น หากเป็นไปได้ควรงดสิ่งเหล่านี้
ช่วงเวลาที่เหมาะสมของการมีเซ็กส์สำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจ แนะนำว่าควรเป็นเวลาเช้ามืดหลังจากร่างกายได้หลับนอนพักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว ถ้าเวลาค่ำก็ควรเป็นหลังอาหารมื้อเย็น อย่างน้อย 2 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม หากในระหว่างที่กำลังปฏิบัติภารกิจแล้วมีอาการโรคหัวใจกำเริบ ควรหยุดกิจกรรมทันทีแล้วนอนพักนิ่งๆ ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น ก็รีบบอกให้คู่รักของคุณติดต่อโรงพยาบาลเพื่อขอความช่วยเหลือได้เลย
มาถึงตรงนี้ คนที่เป็นโรคหัวใจก็ไม่ต้องกลัวว่าจะอดอยากปากแห้ง เพียงแต่ถ้าจะมี ก็ขอให้ใช้ความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่ออาการโรคหัวใจกำเริบ
ขอบคุณบทความ gqthailand
สำนักข่าววิหคนิวส์