วันนี้ (24 พ.ย. 63) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และ รมช.กระทรวงคมนาคม แถลงข่าวเรื่องจุดยืนเกี่ยวกับสถาบันฯ และกล่าวการชุมนุมของราษฎรและนักศึกษาว่ามีความเชื่อมโยงกับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า
นายถาวร กล่าวว่า ในฐานะประชาชนคนไทย และนักการเมืองที่มีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ให้คงอยู่คู่สังคมไทยตลอดไป ซึ่งคุณูปการของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีมาไม่น้อยกว่า 800 ปีที่ทรงปกป้องคุ้มครองพิทักษ์รักษาชาติบ้านเมืองไว้ทุกยุคทุกสมัย กว่า 74 ปีของการก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ 1 ใน 10 คำประกาศอุดมการณ์ของพรรคนั้นระบุไว้อย่างชัดเจน ว่าพรรคจะดำเนินการเมืองโดยอาศัยหลักกฎหมายและเหตุผลเพื่อความศักดิ์สิทธิ์แห่งรัฐธรรมนูญและเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างแก่อนุชนรุ่นหลังให้มีความนับถือและนิยมในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
นอกจากนี้ นายถาวร ยังกล่าวด้วยว่า ตนเองมีความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันฯ จึงต้องแสดงออกถึงหน้าที่และความจงรักภักดีในการปกป้องพิทักษ์รักษาไว้และคิดว่าคนไทยกว่าร้อยละ 90 ก็คิดไม่ต่างกัน มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่คิดเหมือนกับผู้บงการ หรือผู้อยู่เบื้องหลังม็อบ พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมาม็อบที่ปรากฏต่อสาธารณะทุกครั้งมีจำนวนเพียงหลักหมื่นเท่านั้น โดยม็อบใช้ชื่อที่มีความหลากหลาย ยืนยันว่ามีกลุ่มเบื้องหลัง โดยใช้เด็กและเยาวชนเป็นสะพานเชื่อมไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง โดยมีเป้าหมายคือการล้มสถาบัน แต่เลี่ยงไปใช้คำว่าปฏิรูป
นายถาวร ได้กล่าวถึงประเด็นผู้บงการม็อบนักศึกษาว่า เป็นการใช้หลักคิดที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสถาบันฯ เพราะคิดว่าสถาบันฯ เป็นอุปสรรคต่อการเข้าสู่อำนาจทางการเมืองกลุ่มตนเอง โดยกล่าวเชื่อมโยงเหตุการณ์การชุมนุมของนักศึกษา และอธิบายว่ามีความสอดคล้องกับการออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองของนายปิยบุตรและนายธนาธร ซึ่งทั้ง 2 คน ใช้ระยะเวลาประมาณ 10 เดือน ก็สามารถปลุกปั่นให้ผู้บริสุทธิ์และเยาวชนเกลียดชังสถาบันฯ ผ่าน Hate Speech และ Social Media
พร้อมเสนอแนวทางออกของประเทศเพื่อหยุดยั้งภาวะที่จะนำไปสู่สงครามการเมือง ได้แก่ ผู้บงการทุกระดับชั้นที่ทำผิดกฎหมายต้องถูกดำเนินคดีตามหลักนิติรัฐนิติธรรม ส่วนผู้ชุมนุมที่ตกเป็นเหยื่อการโฆษณาชวนเชื่อควรได้รับการยกเว้น ซึ่งนักการเมืองรวมทั้งพรรคการเมืองใดที่ต้องการปฏิรูปสถาบันฯ ให้ประกาศตัวยอมรับให้ชัดเจนต่อสาธารณชน โดยตนเองคัดค้านการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ว่าจะอธิบายขยายความด้วยถ้อยคำความหมายแบบใดก็ตาม และคัดค้านการทำรัฐประหารอันจะนำไปสู่วงจรอุบาทว์ทางการเมืองเดิม รวมถึงทำให้สถาบันฯ ตกเป็นเป้าโจมตีของผู้ชุมนุมและต่างชาติ นอกจากนี้ควรมีการดำเนินการตรวจสอบทุจริตของรัฐบาล นักการเมืองและข้าราชการอย่างจริงจัง รวมถึงควรปฏิรูปนักการเมือง พรรคการเมือง ปฏิรูปประเทศให้เกิดความปรองดองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างแท้จริง
#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร