วันที่ 14 ก.ย. 65 นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยังคงยืนหยัดชัดเจนไม่เห็นด้วยกับนโยบายกัญชาเสรีของรัฐบาลนี้ เพราะเป็นนโยบายที่ผิดทิศ-หลงทาง พาเยาวชนลงเหว เพราะตั้งแต่เริ่มปลดล็อกกัญชาในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีกฎหมายรองรับ แม้พยายามออกระเบียบห้าม แต่ในทางปฏิบัติก็ไม่สามารถควบคุมความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ ประชาชนกลายเป็นหนูทดลองยา เยาวชนหลงผิดรู้เท่าไม่ถึงการณ์จากทดลองกลายเป็นเสพติดโดยไม่รู้ตัว จนเกิดกรณีสลดหลายเหตุการณ์ รัฐบาลไทยไม่เคยตระหนักรู้ ไม่เคยเตรียมการ ไม่เคยรอบคอบ ไม่ศึกษาแนวทางต่างประเทศ กัญชายังอยู่ในบัญชียาเสพติด แต่ประเทศไทยกลับปลดล็อก
ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย สะท้อนถึงปัญหาเรื่องนี้มาตลอด เพื่อสะท้อนถึงปัญหาของกัญชาเสรีที่ก่อให้เกิดความเสียหายและความสูญเสียที่มีผลกระทบในมุมใหญ่ของสังคม และตั้งคำถามต่อผู้มีอำนาจมาตลอดว่า การใช้กัญชาในทางการแพทย์นั้นดี แต่กัญชาเสรีทำเพื่อใครกันแน่ ลำพังยาเสพติดชนิดอื่น ที่อยู่บัญชียาเสพติด ก็มีการจับกุมคุมขังผู้ต้องหาที่เกี่ยวกับการค้า และการเสพมากมาย เรียกได้ว่า คนผิดล้นคุก รัฐบาลยังไม่สามารถควบคุมได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี มาตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ใช้มาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ได้กับทุกเรื่อง แต่กับยาเสพติดกลับจัดการอะไรไม่ได้ ประชาชนบ่นเรื่องยาเสพติดเกลื่อนเมือง ยิ่งมาถึงปัจจุบันยาเสพติดหาง่ายราคาถูก เมื่อมาถึงยุคปลดล็อกกัญชา ออกจากบัญชียาเสพติดความรุนแรง ความสูญเสียชีวิตของประชาชนยิ่งหนักขึ้น ลูกฆ่าพ่อฆ่าแม่ เมายาทำร้ายร่างกายผู้อื่นสร้างปัญหาสังคม ยิ่งเหตุการณ์สะเทือนใจที่จังหวัดกระบี่ ที่มีคนร้ายคลั่งยาเสพก่อเหตุยิงนักเรียนเสียชีวิต 3 ศพ ขณะที่นักเรียนนั่งซ้อนจักรยานยนต์กลับบ้าน ยิ่งซ้ำเติมความเลวร้ายของยาเสพติดในสังคมไทยใน ยุคที่รัฐบาลประกาศเรื่องยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ แต่กลับแก้ปัญหายาเสพติดไม่ได้
นางสาวตรีชฎา กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ไม่เห็นด้วยกับกัญชาเสรี หากจะใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น และควรมีการวิจัยออกมาให้ชัดเจนว่า กัญชาสามารถผลิตเป็นยาหรือเป็นส่วนประกอบในการรักษาโรคใดอย่างชัดเจน และให้รัฐเป็นผู้ดำเนินการส่งเสริม ไม่ใช่ปล่อยเสรี แบบไร้การควบคุม จนเกิดการได้ไม่คุ้มเสีย เพราะสุดท้าย สังคมก็จะเรียกร้องให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเหมือนเดิม แต่กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ ชีวิตเยาวชนและประเทศจะเสียหายเกินเยียวยาได้.