ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #เพื่อไทยไม่เชื่อน้ำยาประยุทธ์ !! ปรับครม.ผลงานดีขึ้น ‘อนุสรณ์’โวยแค่เล่นเก้าอี้ดนตรี 

#เพื่อไทยไม่เชื่อน้ำยาประยุทธ์ !! ปรับครม.ผลงานดีขึ้น ‘อนุสรณ์’โวยแค่เล่นเก้าอี้ดนตรี 

19 November 2017
607   0

 

         “รษก.รองโฆษกพท.” ไม่เชื่อปรับ ครม. ผลงานดีขึ้น เหน็บแค่เล่นเก้าอี้ดนตรี แนะเปิดพื้นที่สิทธิเสรีภาพยุติการเรียกคนเข้าค่ายทหาร 

         แนวหน้า – นายอนุสรณ์  เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี การปรับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้คาดหวังหรือยึดติดกับตัวบุคคลที่จะเปลี่ยนแปลงจากการปรับคณะรัฐมนตรี เพราะรัฐบาลอาจเพียงแค่แก้ปัญหาภายในของรัฐบาลเอง ไม่เชื่อมั่นว่าปรับคณะรัฐมนตรี จะช่วยให้ผลงานของรัฐบาลดีขึ้นได้อย่างไร จะเป็นเพียงสมบัติพลัดกันชม หรือเล่นเก้าอี้ดนตรีกันเท่านั้นหรือไม่ เพราะหากการปรับคณะรัฐมนตรี มีผลเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น คงเห็นผลตั้งแต่การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งก่อนหน้านี้ 
         “ตราบใดที่กัปตันเรือ นายกรัฐมนตรี ยังเป็นคนเดิมนโยบายยังเหมือนเดิม ประชาชนคงไม่คาดหวังอะไร นอกเหนือจากปัญหาด้านเศรษฐกิจที่รัฐบาลนี้แก้ไขไม่ได้ ด้านสิทธิเสรีภาพของประชาชนยังน่าเป็นห่วงตั้งแต่วันแรกที่คสช.เข้ามา ใครที่แสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทหารจะเรียกไปปรับทัศนคติ แม้แต่แกนนำยางพารา ที่เพียงแค่ต้องการจะไปยื่นหนังสือเรียกร้องให้แก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ก็ถูกหิ้วตัวเข้าค่ายทหารในเวลากลางคืน แม้รัฐบาลจะชี้แจงอย่างไรก็ขว้างงูไม่พ้นคอ เพราะถ้ารัฐบาลบริสุทธิ์ใจทำไมถึงไม่รอคุยตอนเช้า หรือทำไมไม่เชิญตัวไปที่ศาลากลางจังหวัด” รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว 
         นายอนุสรณ์ กล่าวว่า อยากให้มองคนไทยเป็นคนไทย มองคนเห็นต่างอย่างเป็นมิตร ทุกอาชีพที่เดือดร้อนในวิชาชีพ อยากมาเรียกร้อง ทำไมต้องทำกันรุนแรงถึงขั้นนั้น ฟรีดอมเฮาส์ องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนสากล ประเมินไทยมีอันดับสิทธิเสรีภาพในเรื่องการแสดงความคิดเห็นต่ำกว่าประเทศเมียนมาร์เสียอีก ซึ่งถ้าหากรัฐบาลจะภาคภูมิใจก็เป็นสิทธิ์ แต่พรรคเพื่อไทยเห็นว่ายังไม่น่าพึงพอใจ ปัญหาเรื่องสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศต่างประเทศและเป็นดัชนีชี้วัดความน่าเชื่อถือและการยอมรับของนักลงทุน 

         อย่างไรก็ตามขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการเปิดพื้นที่ สิทธิเสรีภาพ เพิ่มขึ้น 3 ข้อ ดังนี้ 
1. เปิดพื้นที่สิทธิเสรีภาพการแสดงออกทางความคิดให้กับประชาชนอย่างกว้างขวาง

2.เปิดพื้นที่สิทธิเสรีภาพการวิพากษ์วิจารณ์ให้กับสื่อมวลชนได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา

3.ควรยุตติการเรียกคนเข้าค่ายทหารแม้จะเรียกว่าปรับทัศนคติ แต่แท้จริงแล้วเป็นการข่มขู่คุกคามประชาชนหรือไม่
สำนักข่าววิหคนิวส์