เมื่อ “ใบสั่งร้าง” จะแปลงกายเป็น “หมายจับ”
ผมเชื่อว่า มีหลายคนตกใจ และเกิดวิตกกังวล เมื่อมีข่าวจากตำรวจออกมาว่า หากผู้ใดได้รับใบสั่งแล้ว ไม่ไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อชำระค่าปรับฐานความผิดจราจรนั้น ตำรวจจะขอให้ศาลออกหมายจับ
จากสถิติปีก่อน มี”ใบสั่งร้าง” มากกว่า 14 ล้านใบ ที่ผู้ได้รับใบสั่งแล้วเพิกเฉย ไม่ยอมจ่ายค่าปรับ ไม่ว่าใบสั่งที่เขียนจากเล่ม ใบสั่งที่ออกมาทางออนไลน์ ใด ๆ ก็ตาม
ยิ่งมีระเบียบใหม่ ไม่ให้ตำรวจใช้อำนาจในการยึดใบอนุญาตฯไว้ ก็ยิ่งทำให้ใบสั่งร้างมากขึ้น
ทำให้ตำรวจได้ประเมินตนเองว่า ทำงานไม่เข้าเป้า มีแต่ใบสั่งร้าง ไม่มีใครสนใจจะจ่ายค่าปรับเหมือนก่อนหน้านี้ ที่ดิ้นรนมาจ่ายค่าปรับเพื่อจะได้รับใบอนุญาตคืน
ตอนนี้เลยมาออกมุกใหม่ ใครไม่ไปจ่ายค่าปรับตามใบสั่ง จะ(ขอให้ศาล)ออกหมายจับทันที
ประเด็นนี้น่าสนใจ
น่าสนใจว่า ศาลท่านจะยอมทำตามตำรวจ ออกหมายจับให้หรือไม่
1. คดีจราจร มีอายุความเพียง 1 ปี
2. คดีที่ความผิดมีโทษจำคุกต่ำกว่า 3 ปี ศาลยังไม่เคยออกหมายจับ
3. คดีที่ไม่มีผลกระทบต่อสังคมโดยตรง
ตอนนี้ตำรวจออกข่าว ทำเหมือนกับว่า คดีจราจรเป็นคดีร้ายแรง มีผลกระทบต่อสังคมโดยรวมอย่างมาก จึงต้องออกหมายจับ (ทั้ง ๆ ที่อำนาจการออกหมายจับเป็นอำนาจของศาลมานานแล้ว)
มันจึงเหมือนแค่คำขู่
ความจริงเคยมีคำขู่เช่นนี้มาก่อนหน้านี้ และเป็นคำขู่ที่มีความเป็นไปได้สูง นั่นคือ ใครที่ค้างค่าปรับตามใบใส่ จะไม่สามารถต่อภาษีรถได้
แต่นั่นมันจะต้องมีการประสานงานกันอย่างแน่นหนา ระหว่างกรมขนส่งทางบก กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เท่าที่ทราบ มีการประสานงานกันเหมือนกัน แต่ประสานไม่ติด
ติดขัดที่ผลประโยชน์ของฝ่ายหนึ่ง กับภาระหน้าที่ของอีกฝ่ายหนึ่ง
เป็นที่ทราบกันดีว่า เงินค่าปรับทางจราจรนั้น ถูกแบ่งออกเป็นหลาย ๆ ส่วน โดยมีการส่งเข้าหลวงเพียงร้อยละ 40 ส่วนอีก 60 นั้น มีการจัดสรรปั่นส่วนกัน ไล่ขึ้นไปตั้งแต่ผู้ลงมือจับ ผู้บังคับบัญชาไล่ขึ้นไปอีกหลายชั้น อาจถึงระดับผู้บัญชาการโน่น
ในขณะเดียวกัน กรมขนส่งทางบก ก็มีภาระงาน ในการเก็บภาษีล้อเลื่อนให้กับรัฐบาลแบบเต็มจำนวน และมีเป้าหมายตัวเลขในการเก็บแต่ละเดือน
เดือนไหนถึงก็รอดไป
เดือนไหนตกเป้าก็กลายเป็นบกพร่อง
เมื่อตำรวจออกใบสั่งไปแล้ว ส่งมาให้ขนส่งฯมาบังคับเจ้าของรถว่า คุณต้องไปชำระค่าปรับตามใบสั่งก่อน จึงจะมาชำระภาษีประจำปีได้
หากประชาชนเตรียมเงินมาพอดีกับภาษี ก็ต้องวิ่งโร่ไปจ่ายค่าปรับให้ตำรวจก่อน พอดีเงินไม่พอจ่ายภาษี
ก็เลื่อนไปสิครับ
เมื่อเลื่อนไปเดือนหน้า เขาจ่ายค่าปรับเพิ่มอีกเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น หาเงินได้ก่อนจึงจะมาจ่ายภาษี
ผล
ขนส่งเก็บภาษีไม่เข้าเป้า บกพร่อง หน.ขนส่งอาจถูกพิจารณาโยกย้าย
ตำรวจได้ค่าปรับตามเป้า ส่วนแบ่งตั้งแต่ผู้ออกใบสั่งไปจนถึงผู้บังคับบัญชาได้รับเพิ่มขึ้นกันทั่วหน้า
ฝ่ายหนึ่งบกพร่อง
อีกฝ่ายได้ทั้งหน้าได้ทั้งเงินส่วนแบ่ง
แล้วใครมันจะทำให้ละครับ
ดังนั้น ใครมาจ่ายภาษีล้อเลื่อน ขนส่งรับไว้หมด ส่วนใบสั่งก็ให้ตำรวจไปว่ากันเอง
มันจึงมีใบสั่งร้างมากกว่า 14 ล้านใบต่อปี
นี่คือที่มาของคำขู่จากตำรวจว่า จะออกหมายจับผู้ขัดขืนใบสั่งจราจร
ตำรวจแน่ใจหรือว่าเมื่อขู่แล้วจะได้ผล
หรือแน่ใจหรือว่า เมื่อขอให้ศาลออกหมายจับแล้วศาลจะอนุญาตออกหมายจับประชาชนด้วยความผิดจราจร
ความจริงเรื่องนี้มีทางออก
เป็นทางออกที่สวยหรูและได้ผล เพราะสมประโยชน์กันทั้งสองหน่วยงาน ทั้งตำรวจ ทั้งขนส่งฯ
นั่นคือแบ่งผลประโยชน์ให้ลงตัว
ส่วนแบ่งค่าปรับ ที่ตำรวจได้ 60 เปอร์เซ็นต์นั้น ควรที่จะแบ่งให้ขนส่งด้วย เพราะเขาเป็นผู้ทำให้ต้องจ่ายค่าปรับ
ทุกวันนี้ขนส่งไม่สนใจ ก็คงเพราะว่า
เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง จะเอากระดูกมาแขวนคอทำไมกัน
ชาติ มาลัย ๒๓ มิย๖๕
Cr. ภาพประกอบจากinternet