“เรืองไกร” ร้องผู้ตรวจฯสอบ กกต. เลือกปฏิบัติแจ้งข้อกล่าวหา”ธนาธร”ทับซ้อนกับคำพิพากษาของศาลที่เคยพิพากษามาแล้ว
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้พิจารณาสอบสวนการทำหน้าที่ของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่ามีการเลือกปฏิบัติหรือไม่ เนื่องจากที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ว่าด้วยเรื่องของการถือครองหุ้น บริษัท วีลัค-มีเดีย โดยส่วนตัวได้ตรวจสอบคำสั่ง ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง พบว่า กกต. เคยยื่นคำร้อง หรือ ถูกร้องคัดค้าน มาแล้วไม่ต่ำว่า 11 คดี ที่ศาลได้วินิจฉัยความหมายของการ เป็นเจ้าของ หรือ ผู้ถือหุ้น ในกิจการสื่อ ที่เป็นบรรทัดฐานไว้แล้ว ดังนั้นการที่ กกต.แจ้งข้อกล่าวหานายธนาธร จึงเป็นการทับซ้อนกับคำพิพากษาของศาลที่เคยพิพากษามาแล้ว
ทั้งนี้ การที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เคยมีคำสั่งไปแล้วหลายคดี หรือ กระทั่งการถือหุ้นสัมปทานเพียงหุ้นเดียวก็ผิดตามที่ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยไว้ จึงเห็นว่า ต้นเหตุที่แท้จริงอาจมาจาก รัฐธรรมนูญ บางมาตราที่บัญญัติกว้างเกินไป จนมีผลให้คนกระทำการฝ่าฝืนมากมาย
พร้อมกันนี้ นายเรืองไกร ได้ตั้งข้อสังเกตว่ามีหลายกรณีที่ กกต. กลับไม่วินิจฉัย หรือคิดแทนศาล เช่น กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้ช่องทางในการสื่อสารกับประชาชน ทั้งในรูปแบบของการเปิดเพจเฟซบุ๊ก / อินสตาแกรม / ทวิตเตอร์ รวมถึงเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่ง กกต. ได้สรุปว่าไม่เข้าข่ายการเป็นเจ้าของกิจการ หรือ เจ้าของสื่อ
ดังนั้น จึงเห็นว่าการกระทำของ กกต. เข้าข่ายที่ ผู้ตรวจการแผ่นดิน จะตรวจสอบได้ว่า การไม่วินิจฉัยกรณี พล.อ.ประยุทธ์ และไม่ตั้งข้อกล่าวหาของกกต.แต่กลับตั้งข้อหา นายธนาธร เป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่
Cr.innnews
สำนักข่าววิหคนิวส์