หลังจากเคยออกมาเชียร์ และสนับสนุนม็อบราษฎร หรือม็อบ 3 นิ้วอย่างออกหน้าออกตา แต่วันนี้อะไรที่ไม่ดีในม็อบก็ถึงเวลาที่จะต้องเตือนเหมือนกันสำหรับ นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ได้ออกมาโพสต์ข้อความเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ม็อบต้องเคารพสิทธิเสรีภาพคนอื่นด้วย อย่างทำให้คนอื่นเดือดร้อนมากนัก ไม่งั้นผู้ชุมนุมจะลดลง และขาดความชอบธรรม จนไม่ได้รับการสนับสนุนในที่สุด โดยข้อความทั้งหมด นายวัฒนา ได้กล่าวว่า
.
การที่รัฐสภาลงมติรับหลักการการแก้ไขรัฐธรรมนูญรวม 2 ฉบับ เพื่อตั้ง สสร. ยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ไม่ได้ทำให้ผมแปลกใจ เพราะผมยืนยันมาตลอดว่าร่างของเราที่ขอตั้ง สสร. มีความสมบูรณ์และจะผ่าน ส่วนร่างอื่นๆ จะไม่ผ่านจนผมต้องทะเลาะกับคนในพรรคและเพื่อนต่างพรรคที่กดดันให้พวกผมเสนอแก้ไขมาตราอื่นเพื่อปิดโน่นปิดนี่ด้วย เพราะผมเห็นแต่แรกว่าเปลืองแรงและเสียเวลาเปล่า
.
สิ่งที่น่ายินดีคือการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดขึ้นตามครรลองซึ่งจะเป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศ ส่วนร่างขอแก้ไขอีก 5 ฉบับไม่ผ่านการพิจารณาโดย ส.ส. ส่วนใหญ่ที่มาจากการเลือกตั้งไม่ลงมติให้นั้น สำหรับผมยอมรับได้ ส่วนที่ยังมีผู้ชุมนุมและไม่พอใจการลงมติผมเห็นว่าผู้ชุมนุมควรต้องเคารพสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่นเช่นกัน เพราะหาก ส.ส. เหล่านั้นลงมติโดยฝืนความรู้สึกของประชาชน ทั้ง ส.ส. และพรรคการเมืองนั้นจะถูกลงโทษโดยประชาชนในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเอง
.
สิ่งที่ผมจะเรียกร้องคือ ขอให้ทุกฝ่ายยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยสันติ กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในรอบนี้จบแล้ว ส่วนที่ยังมีคนพยายามปั่นกระแสหลอกต้มชาวบ้านว่าร่างทั้ง 2 ฉบับที่ผ่านรัฐสภาไม่สามารถแก้ไขได้ครบทุกเรื่องก็บิดเบือน เพราะการยกเว้นไม่แก้หมวด 1 และ 2 นั้นไม่ใช่หลักการ จึงสามารถแปรญัตติเพื่อให้ สสร. แก้ไขได้ทุกหมวดอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับกรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่หากเห็นด้วยก็แก้ไขได้ทุกเรื่อง
.
แต่หากยังมีการชุมนุมก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลและรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม สุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน เพราะหากการชุมนุมขาดความชอบธรรมหรือทำความเดือดร้อนให้กับคนส่วนใหญ่ ผู้ร่วมชุมนุมก็จะลดลงและจะไม่ได้รับการสนับสนุน แต่รัฐบาลต้องไม่ทำตัวเป็นคู่ขัดแย้งหรือมองอีกฝ่ายเป็นศัตรู เพราะเราไม่สามารถบังคับให้ทุกคนคิดเหมือนกันได้ ก็ขนาดผมที่ไม่เคยออกไปชุมนุมแต่ลูกผมกลับไปชุมนุมแทบทุกนั