บริษัทอัครา รีซอร์สเซสฯ ผู้ถือประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำ ระบุรัฐบาลไทยและคิงส์เกต มีข้อตกลงร่วมกันขอให้อนุญาโตตุลาการเลื่อนการออกคำตัดสินชี้ขาดเป็น 31 มกราคม 2565 เนื่องจากการเจรจาทั้ง 2 ฝ่ายมีแนวโน้มและทิศทางที่ดี พร้อมยึดถือประโยชน์สูงสุดของประเทศยืนยันเหมืองอัคราทำทุกอย่างถูกตามหลักกฎหมาย มั่นใจสร้างงาน สร้างเศรษฐกิจชุมชนแจงเตรียมพร้อมดำเนินงานหากผลการเจรจาได้กลับมาเปิดเหมือง!
ในระหว่างการเจรจาหาข้อยุติในเรื่องข้อพิพาทเหมืองทองอัคราระหว่างรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ บริษัทคิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด (คิงส์เกต) ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำ จังหวัดพิจิตรและเพชรบูรณ์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ แต่ปรากฏข่าวลือสะพัด ทำให้บริษัทอัครา เกรงว่าข้อมูลบางส่วนที่มีการแพร่ออกไปนั้นผิดไปจากเจตนารมณ์ของการเจรจาที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนคนไทยได้เช่นกัน
นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายประสานงานกิจการภายนอก บริษัทอัคราฯระบุว่า บริษัทฯ ต้องการชี้แจงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นว่าข้อเท็จจริงในการดำเนินงานของบริษัทไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งมีคำพิพากษาศาลที่ถึงที่สุดแล้วยืนยัน และยังมีเอกสารวิชาการที่จัดทำโดยคณะบุคคลและหน่วยงานที่เป็นกลางสนับสนุนความจริงนี้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งการยอมรับของประชาชนรอบเหมืองที่แท้จริงที่ต้องการให้บริษัทกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง
นอกจากนี้บริษัทขอยืนยันว่าได้ดำเนินธุรกิจตามมาตรฐานสากลภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และยึดหลักธรรมาภิบาลที่ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยมุ่งหวังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างงาน สร้างเศรษฐกิจในพื้นที่ เพื่อประโยชน์ของชุมชนและประเทศ
“ขอให้สังคมมั่นใจได้ว่าการเจรจากับรัฐบาลไทยอยู่บนพื้นฐานการให้ความเคารพสิทธิประโยชน์ของประชาชนและประเทศ ไม่มีการรับหรือเรียกร้องผลประโยชน์นอกเหนือกฎหมายหรือไม่เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย”
อีกทั้งในการเจรจาไม่ได้มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ แต่เป็นการเจรจาตามสิทธิที่บริษัทและประเทศชาติควรได้ตามกฎหมาย พร้อมปรับความเข้าใจในกระบวนการดำเนินงานให้มีประสิทธิผลตามกฎหมาย รวมถึงการเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนรอบเหมืองในความปลอดภัยด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในท้องถิ่น อำเภอ และจังหวัดใกล้เคียง
“บริษัทพร้อมรับฟังความคิดเห็นเพื่อประโยชน์ของประเทศไทยและความเป็นธรรมต่อทุกภาคส่วน เพียงแต่ว่าอย่าให้มีการบิดเบือนข้อมูลไปจากข้อเท็จจริง และบริษัทต้องขอขอบคุณหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนรอบเหมืองที่ยืนหยัดเดินหน้าร่วมกันเพื่อผลประโยชน์สูงสุด”
นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ บอกอีกว่าในส่วนกระบวนการอนุญาโตตุลาการนั้น ทั้งฝ่ายรัฐบาลไทยและคิงส์เกตได้ตกลงร่วมกันขอให้คณะอนุญาโตตุลาการเลื่อนการออกคำตัดสินชี้ขาดออกไปจากเดิมวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นวันที่ 31 มกราคม 2565 เนื่องจากอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน ซึ่งเป็นประโยชน์สูงสุดของประเทศและเป็นกระบวนการปกติที่ดำเนินการคู่ขนานไปกับกระบวนการอนุญาโตตุลาการ
อย่างไรก็ดี ในการเจรจาอยู่นั้นสะท้อนให้เห็นทิศทางที่ดี โดยทางบริษัทอยู่ในระหว่างการพิจารณาแนวทางและขั้นตอนต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องดำเนินการหากเหมืองอัคราได้กลับมาเปิดอีกครั้ง เช่นการซ่อมบำรุงเครื่องจักรและปรับปรุงโรงงาน การจ้างงาน การทำสัญญากับ supplier ต่าง ๆ เป็นต้น
“แต่ถ้าไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้ ก็ต้องให้เป็นไปตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการที่ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติต่อไป”นายเชิดศักดิ์ กล่าว