ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #เห็นด้วยกับรัฐประหาร ! ชาติพันธ์พม่า เบื่ออองซาน ทำปท.ถดถอย

#เห็นด้วยกับรัฐประหาร ! ชาติพันธ์พม่า เบื่ออองซาน ทำปท.ถดถอย

3 February 2021
2076   0

วันนี้ นางนิพัทธ์พร เพ็งแก้ว นักเขียนชื่อดังของเมืองไทย ซึ่งถือว่าเป็นนักเขียนเพื่อสิทธิมนุษยชน และเป็นผู้สนใจศึกษาภูมิปัญญาชาวบ้านอย่างจริงจังคนหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับประเด็นการรัฐประหารในประเทศเมียนมา หลังจากที่มีหลายฝ่ายต่างออกมาคัดค้าน และไม่เห็นด้วยต่อการทำรัฐประหารครั้งนี้ โดยข้อความทั้งหมด นางนิพันธ์พร ระบุว่า

ผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการรัฐประหารครั้งนี้ เนื่องจากเอือมระอากับการบริหารประเทศของ ออง ซาน ซูจี และพรรค NLD โดยมีเนื้อหาน่าสนใจดังนี้ หลังจากได้ทราบข่าวการควบคุมตัวนางออง ซาน ซูจี หัวหน้าพรรค NLD ซึ่งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายอื่น ๆ ของพรรครัฐบาลเมียนมาในช่วงเช้าวานนี้
.
ดิฉันจึงเริ่มประสานงานตรวจเช็คจากเพื่อนๆ แหล่งข่าวกลุ่มชาติพันธุ์หลายคนที่ทำงานอยู่ชายแดนไทย และในเมียนมา ในยามสายได้มีข่าวจากกลุ่มชาติพันธุ์ชัดเจนแล้วว่า นายพลมินอ่องหล่ายเป็นผู้นำรัฐประหาร ตอนนี้ทหารเมียนมาได้เข้าจับกุมนักการเมืองท้องถิ่นที่รัฐบาลซูจีของพรรค NLD แต่งตั้งให้ทำงานอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ
.
ดังที่ท่าขี้เหล็กผู้นำท้องถิ่นสังกัดพรรค NLD ของซูจีโดนรวบแล้ว และตามเมืองต่าง ๆ ทหารได้เข้าล็อคตัวผู้นำที่รัฐบาลซูจีแต่งตั้งไว้แล้ว แต่ผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ และคนของกลุ่มชาติพันธุ์ที่ทำงานทางการเมืองโดยตรง ยังไม่โดนอะไร
.
สำหรับในประเทศเมียนมาร์ ดิฉันได้ประสานงานกับเพื่อนสัญชาติเมียนมาที่อยู่ในเมียนมา เขาบอกชีวิตชาวบ้านทุกอย่างยังสงบ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เพิ่งมีประกาศเป็นทางการในทีวีพม่า ว่ามีการแต่งตั้งอูมินส่วย รองประธานาธิบดีพม่าคนที่ 1 ขึ้นรักษาการประธานาธิบดีชั่วคราว
.
ทั้งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในประเทศ 1 ปี ก่อนจะมีการเลือกตั้งใหม่ ให้โปร่งใสกว่านี้ และนี่เป็นข้อมูลที่ดิฉันรวบรวมจากเพื่อนกลุ่มชาติพันธุ์ และติดต่อทางสื่อออนไลน์คุยกับเพื่อนในเมียนมาร์ โดยได้รับทราบมาตลอดหลายปี และรวบรวมเหตุการณ์รัฐประหารวันนี้ มีดังนี้
.
การรัฐประหารครั้งนี้ ทั้งประชาชนเมียนมา และกลุ่มชาติพันธุ์จำนวนมาก เป็นส่วนใหญ่ก็ว่าได้ เห็นด้วยกับทหาร ประชาชนไม่เอาด้วยกับซูจีและนักการเมืองพรรค NLD สำหรับทางกลุ่มชาติพันธุ์แล้ว แม้หลายปีมานี้ในช่วงรัฐบาลซูจี ทางซูจีจะช่วยชนกลุ่มน้อยหลายอย่าง แต่ก็เหยียบย่ำบีบคั้นชนกลุ่มน้อยมาก บังคับให้ผู้นำทุกกลุ่มชาติพันธุ์ต้องพูดภาษาพม่าในรัฐสภา
.
กระทั่งนักการเมืองพรรค NLD เองจะเสนอแนวคิดใดในสภา ก็ต้องนำเสนอประเด็นที่จะพูดในรัฐสภากับซูจีก่อน จึงจะได้รับโอกาสให้เสนอความเห็นในสภาได้ นักการเมืองเมียนมาร์จำนวนมาก และกลุ่มชาติพันธุ์ทุกกลุ่มเจอเรื่องสุดแสบจากซูจีมาตลอด 5 ปี จนเข็ดขี้อ่อนขี้แก่
.
จนกระทั่งมีนักการเมืองรุ่นใหม่ทั้งของเมียนมา และชนกลุ่มน้อย ไม่เอากับ NLD และเข้ารวมตัวกันกับทหารรุ่นใหม่ เข้าสู่สนามเลือกตั้งในช่วงการเลือกตั้งปลายปีที่ผ่านมา
.
เช้าวันนี้ เพื่อนกลุ่มชาติพันธุ์บอกกำลังตรวจเช็ค จะเป็นการรัฐประหารยาวหรือทำแค่ควบคุมระยะสั้น เพราะตอนนี้เป็นช่วงเลือกตั้งเสร็จใหม่ ๆ เหลือเวลาให้ต้องเปิดรัฐสภาให้ได้ภายใน 10 วัน ถ้าเปิดสภาไม่ได้ ผลเลือกตั้งจะเป็นโมฆะ ทหารต้องการให้ผลเลือกตั้งเป็นโมฆะ เพราะโกงมาก และทางซูจีจะต้องเปลี่ยนรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่แน่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญเอื้อกับการใช้อำนาจของทหารมาก
.
ดังนั้นทหารต้องยึดอำนาจ ตรงนี้กลุ่มชาติพันธุ์ก็ต้องการที่สุดในการแก้ รธน. แต่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มชาติพันธุ์ก็ถูกบีบบังคับอย่างที่สุดจากซูจีด้วย และกลุ่มชาติพันธุ์จำนวนมากได้เมินเฉยไม่เอากับรัฐบาลซูจีไปมากแล้วด้วย
.
ดิฉันได้สัมภาษณ์ออนไลน์กับเพื่อนสัญชาติเมียนมาเมื่อเที่ยงครึ่งของวันนี้ เขาอยู่กลางเมืองใหญ่ในเมียนมาร์ เขาให้รายละเอียดว่า

– ขณะนี้ทั้งประเทศไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ มีแต่ WIFI ธนาคารก็หยุดชั่วคราว
.
– เมื่อเช้านักการเมืองถูกคุมตัวที่เนปีดอ 31 คน ทั้งหมดเป็นคน NLD ของซูจี และพรรคอื่น ๆ ซูจีก็โดนด้วย นักการเมืองมาชุมนุมกันที่เนปีดอตอนเช้าเพราะวันนี้เป็นวันเริ่มประชุมสภาผู้แทนราษฎร
.
– ตอนนี้ในประเทศเมียนมายังไม่มีประกาศอะไร ทีวี ช่องต่าง ๆ ในเมียนมาร์ไม่เปิด มีแต่ทีวีช่องทหารอันเดียว ซึ่งที่ออกอากาศให้ประชาชนดูกันอยู่ก็ไม่มีข่าวปัจจุบัน ไม่มีข่าวใหม่ มีแต่ข่าวเมื่อ 2-3 วันก่อน
.
– ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเมียนมา และผู้ใหญ่ในกลุ่มชาติพันธุ์ที่พบปะติดต่อกัน มีความเห็นว่า ดีที่มีการรัฐประหาร เพราะ NLD ของซูจี โกงเลือกตั้งมาก คนตายแล้วยังมีชื่อไปเลือกตั้ง บางคนชื่อมีสิทธิ์เลือกตั้งอยู่ถึง 3-4 เมือง และมีการไปเลือกตั้งทุกเมือง คนไม่มีบัตรประชาชน คนอายุไม่ถึงเกณฑ์ ยังเข้าไปเลือกตั้งได้ หลายเมืองมากที่เสียงคนลงคะแนนเกินจำนวนคนมีสิทธิ์จริง การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาในพม่า มีการโกงอย่างโจ่งแจ้ง เละเทะมาก

กระทั่งทหารเอง นายพลมินอ่องหล่ายออกมาบอกหลายครั้ง ให้ตรวจสอบการโกงเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดความยุติธรรมก่อนเปิดสภา เพราะไม่เป็นประชาธิปไตยจริง ไม่สะอาด ไม่ถูกต้อง มินอ่องหล่ายออกมาบอกหลายครั้ง ซูจี และ NLD ก็ไม่ฟัง จะเปิดสภาให้ได้
.
จนเมื่อ 3-4 วันก่อน ทหารกับ NLD ประชุมกันที่เนปีดอ ทหารขอให้มีการตรวจสอบการเลือกตั้งก่อน ให้ประชาชนได้เห็นความยุติธรรม ความสะอาดโปร่งใสก่อนค่อยเปิดสภา แต่ซูจีและ NLD ไม่ยอม ยืนยันจะเปิดสภาให้ได้
.
การรัฐประหารครั้งนี้ คนเมียนมา และผู้นำทางความคิดของกลุ่มชาติพันธุ์เห็นด้วย เพื่อนดิฉันที่เคยถูกทหารพม่าจับติดคุก และต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาตลอด ยืนยันว่า ดีที่มีการรัฐประหาร เขาเห็นด้วยกับการรัฐประหาร เพราะทหารไม่ได้มายึดอำนาจเหมือนครั้งก่อน แต่ทหารมาเป็นนายกสภา อูมินส่วย มารักษาการประธานาธิบดี ภายใน 1 ปีจะมีการเลือกตั้งใหม่
.
ที่คนจำนวนมาก ผู้นำทางความคิดของกลุ่มชาติพันธุ์จำนวนมากเห็นด้วยกับการยึดอำนาจของทหารครั้งนี้ เพราะตลอดหลายปีในการปกครองของซูจีและรัฐบาลพรรค NLD ซูจีได้ทำในหลายสิ่งที่ประชาชนต่อต้าน ไม่เห็นด้วย เป็นการกระทำที่แย่มาก ๆ ตัวอย่างเช่น
.
ซูจีไปเอาคนยุโรป-ฝรั่งต่างประเทศ มาเป็นที่ปรึกษาประเทศจำนวนถึงประมาณ 90 กว่าคน แต่ละคนต้องจ่ายเงินเดือนเขาอย่างน้อยเดือนละ 2000 ยูเอสดอลลาร์ (60,000 บาท)
.
ทั้งที่ประเทศเมียนมาร์ยากจนมาก ประชาชนยากจนมาก ไม่มีเงิน แต่ซูจีเอางบประมาณชาติมาผลาญ ตลอด 5 ปีของรัฐบาลซูจีเสียเงินไปมาก ทั้งที่คนพม่าเองที่เก่ง ๆ มีความรู้ในเมืองก็มีมาก ซูจีไม่เอาไปปรึกษา เธอเห็นแก่ชาติตะวันตก ประเทศเมียนมารของเราจะเอาแบบตะวันตกไม่ได้ เราไม่เหมือนกัน ชนกลุ่มน้อยก็มีมาก คนไม่มีการศึกษาก็มาก
.
ตลอด 5 ปีของการปกครองของซูจี บ้านเมืองไม่ได้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาเลย งบประมาณที่ซูจีเอาไปให้ที่ปรึกษาฝรั่ง เอามาช่วยการศึกษาดีกว่า แต่ซูจี และ NLD ไม่ทำ ที่สำคัญซูจีไม่เห็นหัวชนกลุ่มชาติพันธุ์ ไม่อยากร่วมมือกับกลุ่มชาติพันธุ์ ไม่อยากเอาคนของกลุ่มชาติพันธุ์เข้าร่วมทำงานการเมืองในสภา ซูจีไม่เอาอย่างชัดเจนมาก ดังนั้นรัฐประหารครั้งนี้น่าจะดีกับประเทศของเรา มากกว่าปล่อยให้ซูจีเปิดสภาแล้วตั้งรัฐบาลปกครองประเทศต่อไป
.
ทั้งหมดนี้ดิฉันรวบรวมจากการสัมภาษณ์เพื่อนสัญชาติเมียนมา และคนของกลุ่มชาติพันธุ์ในช่วงครึ่งวันที่ผ่านมา

——————————-