ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #เอากันชัดๆ ! จตุพร ถามก้าวไกลคิดแก้หมวดกษัตริย์ จะแก้อย่างไร อย่ามาคลุมเครือ

#เอากันชัดๆ ! จตุพร ถามก้าวไกลคิดแก้หมวดกษัตริย์ จะแก้อย่างไร อย่ามาคลุมเครือ

24 August 2020
1069   0

24 ส.ค.63 – นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊กไลฟ์ peace talk ช่วงหนึ่งถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้ยังมีแค่ญัตติของพรรคฝ่ายค้านยื่นให้ แก้ ม.256 เพียงร่างเดียวที่เข้าสภา (30 ส.ค.) และคาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีร่างรัฐบาลยื่นอีกฉบับหนึ่งเพื่อนำไปประกบกัน แต่ยังมีความแตกต่างกันในที่มาของ สสร. ตนย้ำเสมอว่า เพื่อตัดปัญหาทั้งปวงแล้ว สสร. ต้องมาจากเลือกตั้งของ ประชาชน

“ถ้ามาจากช่องทางอื่นหรือตามสาขาอาชีพแล้ว ไม่แตกต่างจากการมี ส.ว. แม้มี สสร.ก็ไม่เกิดประโยชน์ แต่ควรมาจากการเลือกตั้งโดยของประชาชน เพื่อทำหน้าที่ยกร่าง รธน.ขึ้นมาใหม่ มีคนตั้งข้อสังเกตในทางปฏิบัติจะแก้หมวด 1-2 ได้หรือไม่ ความจริงแล้ว ม.256 ได้ควบคุมอยู่แล้ว คือเปลี่ยนแปลงรัฐไม่ได้ เปลี่ยนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถแก้ไขได้อยู่แล้ว”

  นายจตุพร ย้ำว่า ถ้าแต่ทุกฝ่ายไม่เบี้ยวกันแล้ว จะได้อำนาจแก้ไข รธน.ตกมาถึงมือประชาชน ส่วนพรรคก้าวไกลที่ให้ ม.256 เปิดประตูไว้ เพื่อต้องการให้แก้ประเด็นไหน และขอถามว่า จะแก้ไขหมวด 1-2 อย่างไร ถ้าจะแก้ต้องแก้เรื่องอะไรบ้างที่ไม่กระทบตาม ม. 255 กำหนดไว้

การอธิบายแบบคลุมเครือนั้น ถามว่าทำได้หรือไม่ ถ้าสมมุติทำได้ แล้วจะแก้ไขประเด็นอะไรบ้าง ส่วนเรื่องอื่น ทั้งที่มาและอำนาจ ส.ว. หรือคำสั่ง คสช.ที่รับรองในบทเฉพาะกาล รธน. 2560 นั้น ตนเชื่อว่านักประชาธิปไตยต่างไม่เห็นด้วยตั้งแต่ต้น จึงมีมติไม่รับร่าง รธน.มาแล้ว

“บนเส้นทางการต่อสู้ ถ้าอยู่ในโลกจินตนาการ ไม่คำนึงถึงความจริงกันแล้ว และการแก้ไข รธน.ยังยืนยันว่าทำได้ ไหนลองอธิบายวิธีการแก้ไขมาหน่อย รวมความแล้ว การแก้ไข รธน. คราวนี้ควรอยู่ในมือของประชาชนเหมือนเมื่อครั้งแก้ไขและร่าง รธน.ฉบับปี 2540”

นายจตุพร กล่าวว่า การแก้ รธน.ส่วนใหญ่มักจะเกิดเรื่องตามมาทุกครั้ง ดังนั้น การแก้ไข รธน. 2560 แทบต้องโละเพื่อสร้างใหม่ แต่การแก้ ม.256 ยังยากอยู่ และวันนี้ไม่ใช่ว่า พรรคการเมืองรับปากแล้วจะได้อย่างเรียบร้อย เพราะเหตุการณ์พฤษภา 2535 เกิดขึ้น ก็มาจากการรับปากแล้วเบี้ยวกัน จึงเกิดชุมนุม กระทั้งมีความตายบาดเจ็บร่วม 80 ชีวิต จึงสามารถแก้ไข รธน. ได้ฉบับ 2540 ขึ้นมา

“ดังนั้น หากไม่เบี้ยวกัน แล้วลงมือแก้กันก่อนเกิดเหตุการณ์ขึ้น ก็ไม่มีความตายบาดเจ็บเกิดขึ้น แต่การแก้ไขครั้งนี้ดูเสมือนว่าง่าย แต่ผมยังไม่เชื่อ เพราะเชื่อว่า ยังยากอยู่ แต่ฝ่ายประชาชนต้องกุมความชอบธรรม นักการเมืองต้องไว้วางใจประชาชน ให้ รธน.มีประชาชนเป็นเจ้าของ และไม่แตะหมวด 1-2”

นายจตุพร กล่าวว่า ในการต่อสู้เรียกร้องนั้น ตนยังยืนยันเสมอว่า 3 ข้อเรียกร้องของ นศ.มีความสำคัญที่ตนเห็นชอบด้วย ที่สำคัญคือ ในขณะนี้ต้องฟังกัน เห็นต่างสามารถอธิบายกันได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติเบื้องต้นของประชาธิปไตยที่สวยงาม และความแตกต่างเป็นคุณสมบัติติดตัวของมนุษย์

“ต้องถามพรรคก้าวไกลว่า ที่ต้องการแก้ไขหมวด 1-2 นั้นแก้เรื่องอะไร ทำให้เป็นจริงได้อย่างไร ถามแค่ 2 ข้อเท่านั้น เพราะผมคิดแล้วทำไม่ได้ ถ้าอธิบายว่าทำได้ ก็อธิบายมา แต่ถ้าทำไม่ได้แล้วยังอธิบายทั้งที่ทำไม่ได้ ต้องการอะไร เราต้องการประชาธิปไตยหรือต้องการให้เกิดเรื่อง”

ส่วนการคุกคามต่างๆนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะเมื่อประเดประดังกับเรื่องราวต่างๆ และไปผสมกับความไม่พอใจซื้อเรือดำน้ำแล้ว จะกลายเป็นชนวนคัดค้านสำคัญ ดังนั้นการต่อสู้ของภาคประชาชนต้องมีเหตุผล ได้ประโยชน์ เป็นประชาธิปไตย เพื่อร่วมต่อสู้กันให้ได้ความสำเร็จ