แก้วสรร อติโพธิ อดีตคตส.ได้โพสข้อความทางเฟสบุ๊คถึงกรณี การตายของนักเรียนเตรียมทหารว่า “กฎหมาย” กับ “คดีน้องเมย”
ถามน้องเมยเป็น “ทหาร”แล้วหรือไม่?
ตอบเขายังไม่ขึ้นทะเบียนประจำการ จึงยังไม่เป็นทหาร อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็เป็นผู้เยาว์ด้วย พ่อแม่จึงมีหน้าที่คุ้มครองดูแลเต็มที่ ใช้สิทธิแจ้งความ กล่าวโทษร้องเรียน ฟ้องร้องแทน
น้องได้ทุกรณี
ถามเมื่อยังไม่เป็นทหาร แล้วกองทัพเอาศพน้องไปผ่าได้อย่างไร?
ตอบไม่ได้ นี่เป็น “ตายโดยผิดธรรมชาติ”ของพลเรือน คือเหตุเกิดในระหว่างอยู่ใต้อำนาจควบคุมดูแลของรัฐ กรณีต้องอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ และตรวจสอบเช่นพลเรือนทั่วไป หมอโรงพยาบาลที่น้องไปตาย คือโรงพยาบาล จปร.ต้องตรวจสอบเบื้องต้น แจ้งความตำรวจ ส่งศพน้องไปตรวจสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หรือสถาบันพลเรือนอื่นๆ แล้วพนักงานสอบสวนนำรายงานกับความเห็นที่ได้มาเข้าสำนวน เพื่อไต่สวนการตายในศาลพลเรือนต่อไป
ถามหมายความว่า กองทัพไม่เกี่ยวเลย
ตอบครับ…ไม่ควรถืออำนาจส่งศพไปให้โรงพยาบาลทหารจัดการผ่าศพ ต้องส่งคดีให้ตำรวจจัดการ มีความเห็นเบื้องต้นของหมอ จปร.รองรับ โรงเรียนเตรียมทหารแจ้งบิดามารดาแสดงความเสียใจแล้วให้ไปตามเรื่องจากตำรวจเอง แล้วกองทัพหยุดอยู่แค่นั้น
ทำตามกฎหมายอย่างนี้มันถึงจะไม่เกิดเรื่อง มีแต่ทหารจริงๆตายในค่ายเท่านั้น การตรวจสอบถึงจะตรวจกันเอง โดยส่งศพไปตรวจโรงพยาบาลพระมกุฎฯ
ถามโดยถือเป็นกระบวนการตรวจสอบตามกฎหมาย
ตอบครับ…ตายผิดธรรมชาติต้องไปจบที่ศาล จะผ่านการตรวจสายพลเรือนหรือทหาร ก็ไปจบที่ศาลพลเรือนหรือศาลทหารทั้งนั้น เมื่อเป็นการตรวจสอบตามกฎหมาย มันก็เป็นกระบวนการสอบสวน หมอหรือใครต่อใครต้องรูดซิปปาก เอามาพูดมาจามาปกป้องรับรอง กล่าวหาใดๆไม่ได้ทั้งนั้น
ถามที่คนในกองทัพ หลายระดับโผล่มาพูดก็ผิดสิครับ
ตอบผิดครับ ต่อให้น้องเมยเป็นทหารแล้วก็ตาม ใครจะพูดแทรกแซงกระบวนการทางกฎหมายไม่ได้ทั้งนั้น ยิ่งเป็นหมอยิ่งพูดไม่ได้ มันเป็นข้อมูลส่วนตัวของน้องเมยเขา
ถามแล้วหมอที่ผ่าน้องเมย จะเก็บอวัยวะน้องไว้ได้ไหม
ตอบต้องเก็บไว้เพื่อการตรวจสอบต่อไป ไม่ใช่เอาไปให้นักเรียนแพทย์เรียนอย่างที่ชี้แจงไป นั่นมันเข้าข่ายลักทรัพย์ การตรวจสอบต่อไปก็ต้องทำโดยความรู้เห็นของพนักงานสอบสวนหรือหมอ จปร.ที่รับผิดชอบส่งไปตรวจ ฝ่ายพ่อแม่ก็มีสิทธิรู้ว่าศพอยู่ไหน และทำอะไรกับลูกเขาบ้าง
ถามตกลงน้องเมยตายเพราะอะไร ตอบยังไม่มีใครยืนยันอะไรได้ทั้งนั้น แต่พอเดินผิดช่องทาง ทำงานผิดครรลอง ช่างพูด แอ๊คอารท์กันไปหมด แถมยังพูดไปโดยไม่รู้อะไรควรไม่ควรอย่างนี้ เรื่องมันถึงเละ กองทัพก็พลอยกระทบไปด้วย ไม่สมควรเลยจริงๆ
คงต้องมีใครถูกธำรงวินัยกันบ้างนะครับ นายครับ
สำนักข่าววิหคนิวส์