ดร.ชางยองรี ผู้อำนวยการของภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกมาบอกว่า ปีนี้เศรษฐกิจเอเชียจะมีอัตราการเติบโตที่ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เขาจำความได้ โดยคาดว่าจะลดลง 1.6%
ตัวเลขดังกล่าวถือว่าลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเมษายนว่าเศรษฐกิจเอเชียจะมีอัตราการเติบโตเป็น 0 ซึ่งเท่ากับว่าการระบาดของโควิด-19 ส่งผลต่อเศรษฐกิจของหลายประเทศในเอเชียหนักกว่าที่ประเมินไว้ในทีแรก
บล็อกของไอเอ็มเอฟที่โพสต์โดย ดร.รี ระบุว่า การที่ชาติในเอเชียพึ่งพาการค้าเป็นอย่างมาก ทำให้ตัวเลขการนำเข้าและส่งออกได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะที่ทั่วโลกกำลังประสบปัญหา ประเทศอย่างญี่ปุ่น อินเดีย และฟิลิปปินส์ คาดว่าจะมีตัวเลขดังกล่าวลดลงประมาณ 20% ในปีนี้
ส่วนปัจจัยอื่นที่เป็นส่วนสำคัญทำให้เศรษฐกิจทวีปหดตัวได้แก่ มาตรการล็อกดาวน์ที่ยาวนานกว่าที่คาดไว้ ความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงความขัดแย้งระหว่างประเทศ
หากไม่มีการระบาดระลอกสอง และรัฐบาลแต่ละประเทศมีการเยียวยาทางเศรษฐกิจที่เหมาะสม เอเชียอาจกลับมาโตได้ถึง 6.6% ในปีหน้า
ในรายงานฉบับล่าสุดของไอเอ็มเอฟได้พูดถึงประเทศไทยว่า เป็นหนึ่งในประเทศที่ GDP ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาส 1 ของปี 2563
และกลุ่มอาเซียน 5 ที่ไทยถูกจัดให้อยู่กับอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนามจะหดตัวลง 2% ในปีนี้ ก่อนจะกลับมาโต 6.2% ในปีหน้า
ส่วนในภาพรวมนั้น ไอเอ็มเอฟคาดว่าสเปนและอิตาลีอยู่ในกลุ่มที่โดนกระทบหนักสุด โดยจะหดลง 12.8% ในขณะที่จีนถูกมองว่าจะฟื้นตัวเร็วจนกลับมาโต 1% ได้