นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยิ่งใกล้เข้าโหมดเลือกตั้ง พลังดูดยิ่งรุนแรง ตนทราบมาว่า ใครอาวุโสในจังหวัดได้ทั้งตำแหน่ง ได้ทั้งงบ ไม่นับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งก้อนโต หากย้ายพรรคไปอยู่กับเขาในตอนนี้ รับไปก่อนหนึ่งก้อน รายเดือนอีกครึ่งก้อน นี่หรือคือการปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง รู้สึกเสียดายเวลา 4 ปีที่ผ่านมา การเมืองยังอยู่ในวังวนเดิมที่อำนาจอธิปไตยยังมิได้เป็นของปวงชนอย่างแท้จริง
เมื่อคนในอำนาจพยายามทุกวิถีทางถึงขนาดมีผู้ใหญ่ระดับสูงลงมาล็อบบี้ ยื่นเงื่อนไขให้ประโยชน์กับอดีต ส.ส.ด้วยตนเอง จึงประมาณการได้ว่าการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีถึง คงจะมีการโกงกันอย่างมโหฬารย้อนยุคไปเหมือนปี 2500 แล้วประเทศของเราจะเหลือความเชื่อมั่นให้สังคมโลกเชื่อถือได้อย่างไร
“ที่ผมพูดมานั้นเหมือนปั้นน้ำเป็นตัว ก็ขอเรียนว่าชีวิตผมไม่เคยโกหก และอดีต ส.ส.ของพรรคที่ถูกเชิญตัวไปพบผู้ใหญ่ในอำนาจ เขามาสารภาพกับผู้ใหญ่ในพรรคว่าถูกพลังดูดจริง แต่เขาไม่ยอมย้ายพรรค ได้แต่ขอบคุณไป เพราะไม่รู้จะหันหน้าไปบอกประชาชนอย่างไร ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลคงป่นปี้ ถูกพี่น้องประชาชนสาปแช่ง ไม่ได้ผุด ไม่ได้เกิด และถ้าย้ายไป ก็คงสอบตกเหมือนกับผู้ที่ขายตัวในอดีต คือ สอบตกทุกราย ถูกประชาชนลงโทษ
อดีต ส.ส.ท่านนั้นยังกล่าวกับตนว่าขณะนี้ประชาชนจำนวนมาก รอด้วยใจจดใจจ่อเพื่อติดตามการพิจารณาคดีความผิดตามมาตรา 113 ในวันที่ 22 มิ.ย.2561 ที่จะถึงโดยศาลฎีกาจะพิจารณาคดีว่าจะยอมรับอำนาจจากการปฏิวัติ รัฐประหาร หรือไม่ ถ้าโชคไม่ดี ประชาชนคนไทยก็ยังอยู่ในวังวนเก่าที่ประเทศไทยยังยอมรับอำนาจการรัฐประหาร ซึ่งก็จะไม่ได้รับการยอมรับในสังคมโลก แต่ถ้าโชคดีเป็นของประชาชนชาวไทย อาจจะเป็นทางออกที่ทำให้ได้รัฐบาลที่เป็นกลางมาจัดการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อความเรียบร้อย และความสงบสุขของบ้านเมือง ประการสำคัญ อาจจะเป็นศักราชใหม่ที่ประเทศไทยจะมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างสมบูรณ์ก็เป็นได้
สำนักข่าววิหคนิวส์