อานนท์ แสนน่าน” ย้อน “ทักษิณ” ในอดีตก็เคยซ้อมก่อนต้อนรับไม่เห็นมีใครว่า คนอุดรและคนอีสานมาด้วยหัวใจไม่ต้องเกณฑ์หรือจ้างมาและทุกวันนี้คำว่า “เมืองหลวงคนเสื้อแดง” เป็นเพียงตำนานเหมือน “หมู่บ้านเสื้อแดง” เพราะคนเสื้อแดงเขาทราบกันหมดแล้วว่าถูกหลอก ซ้อมเพื่อป้องกันการแทรกแซงบุคคลไม่หวังดีและทำลายชื่อเสียงนายกฯ ตนคืออดีตเสื้อแดงทราบพฤติกรรมและการกระทำอันชั่วร้ายสร้างสถานการณ์ให้บุคคลที่ไม่ชอบเสียหายจากนายทุนใหญ่เป็นอย่างดี
วันที่ 8 ธันวาคม 2564 นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่อดีตนายกทักษิณออกมาระบุว่า ตนและสมาชิกขนคนมาจากต่างจังหวัดและเกณฑ์คนมานั้น แท้ที่จริงแล้วตนก็ไม่อยากจะโต้ตอบเพราะที่ผ่านมาก็เขียนเอาไว้บนเฟซบุ๊ก หลายๆ คนก็เข้าใจ และที่ไม่อยากตอบเพราะเป็นเด็กเยาวชนที่เล่นโชเชียลมักใส่ร้ายป้ายสี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือ “นายกลุงตู่” แต่มาวันนี้กลับมาเป็นผู้ใหญ่ที่ตนเคยนับถือ มาพูดเรื่องนี้โดยเฉพาะคำว่า “เมืองหลวงคนเสื้อแดง” ปัจจุบันนี้กลายเป็นเพียงตำนานแล้วเช่นเดียวกันกับ “หมู่บ้านเสื้อแดง” เพราะที่ผ่านมาแกนนำใหญ่ของอุดรธานี ก็ไม่ใช่คนอุดรธานี หรือ “คนอีสาน” เป็นคนมาจากต่างจังหวัด “เว้าอีสานคือข่อยบ่อเป็นดอก” แต่แท้จริงทุกคนถูกใบสั่งให้มาดำเนินการเป็นแกนนำชักจูงมวลชนที่เป็นคนที่อีสานรักในประชาธิปไตย และวันนั้นคนเสื้อแดงก็แจ้งตนมาว่าจะไม่ออกมาเพราะเข็ดแล้ว ถูกหลอกมาเกือบค่อนชีวิต คนอุดรธานีต้องการ รักและสามัคคีทำมาค้าขายไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 เพราะเบื้องหลังต่าง ๆ ก็เริ่มชัดเจนขึ้น หลังการรัฐประหารปี พ.ศ.2557 ตนยังเคยกล่าวเอาไว้ว่า “ขอบคุณรัฐประหารปี 2557 ทำให้พวกตนเริ่มตาสว่างขึ้นเรื่อยๆ” และพี่น้องอดีตคนเสื้อแดงที่ต้องคดีและติดคุกก็เริ่มถูกปล่อยทิ้งมาเป็นระยะๆ ยิ่งมาเจอปัญหาไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่วโรค คนอีสานไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจาก ส.ส.คำที่เรียกกันว่า “ผู้แทนราษฎร” ในพื้นที่เลยมีเพียง “นายกลุงตู่” และ อดีตคนเสื้อแดงที่ไปช่วยเหลือประสานงานกับทางรัฐบาลมาช่วยพี่น้องเท่านั้น อดีตนายกทักษิณ ต้องเลิกสร้างวาทกรรมเก่าๆ ได้แล้วครับ คำว่า “คนเสื้อแดงยังเหนียวแน่น” ทุกวันนี้ที่ออกมาเรียกร้องไม่ใช่คนเสื้อแดง แต่เป็นเยาวชนที่ถูกกลุ่มนักเมืองหลอกให้ออกมาล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ อดีตคนเสื้อแดงเขาไปทำมาหากินกันหมดแล้วก่อนที่เขาจะอดตายเพราะไปเชื่อนักการเมืองเลวๆ บางคน
นายอานนท์ กล่าวอีกว่า เรื่องนั้นแท้ที่จริงไม่ได้มีการแอบถ่ายแต่อย่างใดตนได้ให้ทีมงานถ่ายและขึ้นเอาไว้ในเฟสบุ๊ค “อานนท์ แสนน่าน” (รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์) ว่า ทำไมต้องซ้อมแล้วถ่ายคลิปเอาไว้และแชร์ออกไป เพื่อเป็นการสกรีนและป้องกันการเดินทางมาตรวจราชการของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อม “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางไปยังวัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อกราบนมัสการและสนทนาธรรมะกับพระราชวชิรธรรมาจารย์ (หลวงพ่อสุธรรม สุธัมโม) เจ้าอาวาสวัดเกษรศีลคุณ และพระราชภาวนาวชิรากร (หลวงพ่ออินทร์ถวาย) เจ้าอาวาสวัดอุดมมงคลวนาราม (วัดป่านาคำน้อย) อ.นายูง จ.อุดรธานี และติดตามความก้าวหน้าสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว) ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานที่บรรจุอัฐิธาตุและเครื่องอัฐบริขารของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
“จุดที่มีการซ้อม คือ บริเวณพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว) ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ทาง “นายกลุงตู่” ชายชาติทหารผู้มีความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะมาตรวจเยี่ยม เมื่อผมเดินทางไปถึงพบว่ามีมวลชนจากจังหวัดต่างๆ หลายจังหวัด จึงเข้าไปสอบถามบางคนเห็นรถ “ลุงป้อม” ขับเข้ามาก็วิ่งไปไหว้และถ่ายรูปตะโกนออกมาว่า “ท่านนายกหล่อจังค่ะ” บางคนแฝงตัวมาเป็นนักท่องเที่ยวเป็นเยาวชนมาจากจังหวัดขอนแก่นและกรุงเทพฯ เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ออกมา ผมในฐานะเจ้าบ้าน เพราะเป็นคน “จังหวัดอุดรธานี” และ “หมู่บ้านเสื้อแดงแห่งแรกเกิดขึ้นที่จังหวัดอุดรธานี” อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแห่งแรกมาร่วมต้อนรับด้วย แต่ก็ให้มากันเพียง 5 คน เราจะประสานแกนนำแต่ละจังหวัดไม่เกิน 5 – 10 คน แต่ไม่มีการจ้างหรือจัดตั้งให้มาแต่อย่างใด หลายคนอยากมาแต่ผมก็ขอร้องเอาไว้เพราะสถานที่แต่ละจุดมีจำนวนจำกัดด้วยกันป้องกันไวรัสโควิด-19 ระบาด ส่วนคนอุดรธานีมาได้จุดละไม่เกิน 300 คน รวม 3 จุด
นายอานนท์ กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ในวันดังกล่าวที่เห็นมีคนใส่สูทผูกเน็คไท อย่างหล่อและอย่างสวย ขอแจ้งให้ทราบครับว่านั้นคือ “ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน” เป็นชาวบ้านไม่ใช่ทหารหรือข้าราชการตามที่ถูกใส่ร้ายป้ายสี อย่างเช่นผู้ชายที่ตัดผมสั้นใส่สูทผูกเน็คไท คือ นายพิศิษฐ์ ไชยชาติ ประธานผู้ประสานงานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและ ผู้หญิงใส่สูทร้องตะโกนดังๆ ก็คือ นางนิตยา นาโล “นักสู้ปอสี่” อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน เพราะเราต้องการป้องกันอย่างดีหากมีการแทรกแซงจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อ “นายกลุงตู่” ผู้จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราจะไม่ยอมให้มีคนมาทำลายทำให้เสียชื่อเสียงได้ เพราะตรงที่มวลชนมาต้อนรับคือ “พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว)” มีพระสายวิปัสสนากรรมฐานจำพรรษาหลายรูป ผมจะไม่ยอมให้บุคคลหน้าไหนมาสร้างสถานการณ์ภายในวัดที่ชาวอุดรธานีและทั่วประเทศเคารพศรัทธานับถือได้อย่างเด็ดขาด เมื่อมาถึงเห็นมวลชนมาคอยต้อนรับหลายกลุ่มจึงเกิดความคิดว่า “เราต้องซ้อมการต้อนรับนายกลุงตู่” จะได้ทราบว่าใคร “รักลุงตู่จริง” และ “ใครแอบแฝงไม่รักลุงตู่” ผมได้ทำการซักซ้อมการปรบมือ การตะโกนเรารักลุงตู่ และ พฤติกรรมต่างๆ แล้วถ่ายเป็นคลิปไปขึ้นในเฟซบุ๊กของตัวผมเอง เพราะต้องการให้ส่วนราชการผู้รักษาความปลอดภัยทั้งภายในจังหวัดอุดรธานีและส่วนกลางทราบว่า “พวกเราอดีตหมู่บ้านเสื้อแดง” และ “ประชาชนผู้รักลุงตู่” รักลุงตู่ด้วยหัวใจจริงๆ ต้องการอยากให้ท่านเดินมาจุดนี้เพราะจริงๆ แล้ว จุดนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร จะไม่ยอมให้มวลชนมารอรับ โดยต้องการให้ไปจุดในตัวเมืองอุดรธานีและวังนาคินทร์คำชะโนด “แต่ด้วยความรักนายกลุงตู่ของมวลชน ต้องการจะมารอรับท่าน จึงได้อนุญาตแต่ได้ไม่มากนักรวมๆ แล้วประมาณไม่เกิน 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาด้วยใจกันเอง “ไม่ได้มีการจัดตั้งหรือจ้างมา” แต่อย่างใด การซักซ้อมต้อนรับนายกลุงตู่ที่ผมแชร์ออกไปผิดด้วยหรือที่สะท้อนให้เห็นความพร้อมของมวลชนจริงๆ และที่ผ่านมาการต้อนรักบอดีตนายกทักษิณหรือ นักการเมืองหลายๆ คนผมก็ซ้อมกันทั้งนั้นแต่ไม่เห็นจะมีใครว่า เพราะอะไรทราบไหมครับ “คนเสื้อแดงมาเป็นเสื้อเหลืองจะถูกด่า” แต่ทว่า “คนเสื้อเหลืองมาเป็นเสื้อแดงไม่ถูกด่า” แต่วันนี้พวกตนเป็น “คนรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” เพียงเท่านั้นก็นอนตายตาหลับแล้ว
“…เมื่อคลิปดังกล่าวออกไปและเป็นประเด็นขึ้นมาก็เป็นผลดีครับว่า ทางนายกลุงตู่ ข้าราชการ และประชาชน จะได้ทราบว่ามีคนที่รักนายกรัฐมนตรี คนที่ชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จำนวนมากและผมเองเป็นอดีตคนเสื้อแดงร่วมต่อสู้กับ “พี่แรมโบ้” ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ มาด้วยกันหลายปีผมทราบพฤติกรรมและการกระทำอันชั่วร้ายสร้างสถานการณ์ให้บุคคลที่ตนเองไม่รัก ไม่ชอบ สร้างเหตุการณ์หรือการกระทำต่างๆ ให้บุคคลนั้นเสียชื่อเสียงนายกทุนใหญ่พร้อมจ่ายไม่อั้น การที่นายกลุงตู่ ลงพื้นที่มาดูการพัฒนาจังหวัดอุดรธานีและพร้อมที่จะช่วยเหลือในด้านงบประมาณต่างๆ ผมในฐานะเจ้าบ้านจะไม่ยอมให้ คนไหนมาสร้างสถานการณ์ให้ท่านเสื่อมเสียชื่อเสียงในวัดป่าบ้านตาดได้อย่างเด็ดขาด…”