จากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (18 ก.ค.) ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน กทม. ได้มีกลุ่มผู้เรียกตัวเองว่า “กลุ่มเยาวชนปลดแอก” เป็นการรวมกลุ่มของ กลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางเมือง โดย มีแกนนำขึ้นปราศัย สลับกับเล่นดนตรี ท่ามกลาง การดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจวางกำลังดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย
กลุ่มผู้ชุมนุมทยอยมาถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตั้งแต่ 16.00 น. เกิดเหตุกระทบกระทั่งระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจเล็กน้อย จนนำไปสู่การปิดการจราจรบริเวณรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และเปิดการปราศรัยขึ้นใน เวลา 17.00 น. โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อคือ
ยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนการชุมนุม มีเหตุกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย หลังเห็นภาพชายชุดดำ หัวเกรียน พยายามนำผ้าสีดำมาปิดกล้องวงจรปิด ทำให้ประชาชนที่อยู่ในที่ชุมนุมตะโกนส่งเสียงแสดงความไม่พอใจ
จากนั้น และเวลาเที่ยงคืน (24.00 น. / 19 ก.ค.) แกนนำได้ประกาศยุติการชุมนุม โดยระบุว่า
โดยนแกนนำระบุว่า “เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่มีสถานการณ์ไม่ชอบมาพากล และเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงขอประกาศยุติชุมนุม โดยให้เวลารัฐบาล 2 สัปดาห์ จะกลับมาชุมนุมใหม่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแน่นอน”
นอกจากนี้ ก่อนประกาศยุติการชุมนุม ได้ถูกกดดันอย่างหนักถ้าไม่เลิกชุมนุม อาจจะมีการควบคุมตัวได้
ล่าสุดเช้าวันนี้ ( 19 ก.ค.) ที่ผ่านมา บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลับเข้าสู่สภาวะปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฏร์ นำแผงเหล็กที่เคยกั้นขอบทางแต่ถูกผู้ชุมนุมรือไปกลับมาตั้งใหม่อีกครั้ง นอกจากนี้ยังพบแผ่นโปสเตอร์สีเหลือง ที่สกรีนภาพบุคคลทางการเมืองที่สูญหายในต่างแดน อาทิ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ /นายสุรชัย แซ่ด่าน /นายสมชาย นีละไพจิตร และนักโทษการเมืองอีกหลายคน โดยระบุสาเหตุที่ศูนย์หายว่าถูกรัฐไทยอุ้ม
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังพันตำรวจเอก วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผู้กำกับสน.ชนะสงคราม เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ ที่คาบเกี่ยว 3สถานีตำรวจ ได้แก่ สน.ชนะสงคราม สน.สำราญราษฏร์ และสน.นางเลิ้ง
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อพิจารณาการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และจะดำเนินคดีกับแกนนำในระดับใดบ้าง ต้องรอผลจากคณะทำงานอีกครั้ง จึงจะสามารถระบุได้ว่าจะดำเนินคดีกับใคร และในข้อหาอะไรต่อไป