ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #แก้รธน.ส่อวืด ! ฝ่ายรัฐบาลยื่อส่อเรื่องตีความต่อศาลรธน.

#แก้รธน.ส่อวืด ! ฝ่ายรัฐบาลยื่อส่อเรื่องตีความต่อศาลรธน.

9 February 2021
480   0

ด่วน ส.ส.รัฐบาล-ส.ว.ไฟเขียวส่งศาลฯตีความแก้ รธน. ฝ่ายค้าน เสนอเปิดชื่อประจาน

ด่วน ส.ส.พลังประชารัฐ และ ส.ว. ไฟเขียวส่งศาลรัฐธรรมนูญ ตีความการแก้ไข รธน. ด้านพรรคฝ่ายค้าน เสนอเปิดชื่อประจาน เผย ส.ส.ร่วมรัฐบาล ก็โหวตคว่ำ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 ก.พ.64 ในการประชุมร่วมรัฐสภา มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาวาระ ให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 (2) ของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และ นายสมชาย แสวงการ ส.ว. เป็นผู้เสนอ

นายไพบูลย์ เสนอเหตุผลว่า การยื่นญัตติครั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปอย่างถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด เพราะหากไม่มีการดำเนินการให้ชัดเจนว่ารัฐสภามีอำนาจหรือไม่ ตนห่วงว่า ส.ว.อาจเกรงว่ามีปัญหา การลงมติวาระ 3 อาจจะไม่กล้าให้ความเห็นชอบ อาจงดอกเสียง

ทำให้ได้เสียงเห็นชอบในการผ่านร่างรัฐธรรมนูญไม่เพียงพอ จึงควรส่งญัตติให้วินิจฉัยโดยด่วน ทั้งนี้ ญัตติไม่ได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญคุ้มครองชั่วคราว หรือให้ชะลอการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังดำเนินต่อไปได้

“หากศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าทำได้ จะทำให้ ส.ว. สบายใจและ การลงมติวาระ 3 ไม่มีปัญหา แต่หากศาลวินิจฉัยรัฐสภาไม่มีอำนาจจัดทำฉบับใหม่ และแก้ไขรายมาตราเท่านั้น ผมเสนอให้ตั้งกมธ.แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ของรัฐสภา ซึ่งจะแก้ไขกว่า 100 มาตราได้ เชื่อว่าจะไม่เสียเวลาและงบประมาณหมื่นล้านบาท” นายไพบูลย์ กล่าว

จากนั้นสมาชิกรัฐสภา ได้อภิปรายแสดงความเห็น โดย ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน รวมถึง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ต่างอภิปรายไม่เห็นด้วย เสมือนการดึงให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญล่าช้า และการแก้ไขเพิ่มเติมโดยให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) สามารถทำได้ตามมาตรา 256 ขณะที่ส.ว.ส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนญัตติดังกล่าว เพื่อให้ศาลวินิจฉัยได้ข้อยุติในความเห็นที่ขัดแย้งกัน โดยเชื่อว่าจะไม่ทำให้เกิดความเสียเปล่าหรือเสียหาย

ต่อมาเวลา 14.00 น.สมชาย แสวงการ ส.ว. หนึ่งในผู้เสนอญัตติ อภิปรายสรุปว่า อยากเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีความรอบคอบ เพราะเมื่อมีข้อกังขาเรื่องข้อกฎหมายที่ต่างกัน และประชาชนส่วนหนึ่งลงชื่อคัดค้านเราจึงเห้นควรส่งเรื่องนี้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญตามหน้าที่ของ ส.ว.ทั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาในร่างแก้ไขรัฐธรมนูญฉบับที่กรรมาธิการฯ กำลังพิจารณาอยู่ในยืดเยื้อ หรือเตะถ่วงแต่อย่างใด เพราะการพิจารณาก็ดำเนินการไปตามปกติ แต่การยื่นศาลรัธรรมนูญครั้งเพื่อความชัดเจนว่ารัฐสภามีอำนาจหรือไม่ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจวินิจฉัยแล้วใครจะเป็นผู้วินิจฉัย ทั้งนี้สุดท้ายแล้วศาลมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างไรพวกตนพร้อมน้อมรับ

จากนั้นเป็นการลงมติเห็นด้วยให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ 366 เสียง ไม่เห็นด้วย 315 เสียง งดออกเสียง 15 เสียง ทั้งนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา แจ้งว่า ที่ประชุมีมติเห็นชอบส่งญัตติดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

ทั้งนี้นายวิสาร เตชะธีระวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นทันทีหลังมีมติ ส่งญัตติดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า ขอให้ประธานใช้อำนาจตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เปิดเผยการลงมติว่าสมาชิกรัฐสภาคนใดมีมติอย่างโดยด่วนที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูล ผลการลงมติดังกล่าวผ่านสื่ออิเล็กทรอนิก แต่นายพรเพชร ได้ตัดบทเข้าสู่วาระการประชุมต่อไปทันที โดยไม่ได้พูดถึงเรื่องที่นายวิสารร้องขอแต่อย่างใด สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลเช่น พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา ได้โหวตคว่ำมติดังกล่าว ร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน แต่แพ้เสียง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลอย่างพรรค พปชร. และ ส.ว.