ข่าวประจำวัน » อาชญากรรม » #แก๊งเปรตรับกรรม!อัยการสั่งฟ้องอดีตผอ.พศ.-อดีตเจ้าคณะชนแดนอม‘เงินทอนวัด

#แก๊งเปรตรับกรรม!อัยการสั่งฟ้องอดีตผอ.พศ.-อดีตเจ้าคณะชนแดนอม‘เงินทอนวัด

23 February 2018
840   0

อัยการฟ้องแล้วอดีต ผอ.พศ. และอดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน อมเงินทอนวัด 28 ล้านบาท ขณะที่ ผอ.พศ.ปทุมธานี สั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากหลักฐานอ่อน รอ ผบ.ตร.ทำความเห็นกลับมา

Naewna เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 23 ก.พ.61 นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณาสั่งคดีเงินทอนวัดจำนวน 28 ล้านบาท ว่า หลังจากเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนกองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) ได้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อายุ 59 ปี อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ผู้ต้องหาที่ 1(หลบหนี ) , นายฉัตรชัย ชูเชื้อ อายุ 53 ปี ผอ.พศ. ปทุมธานี ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งได้ประกันตัวในชั้นฝากขัง และนาย สมเกียรติ ขันทอง หรืออดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ อายุ 54 ปี อดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ และ เจ้าอาวาสวัดลาดแค ผู้ต้องหาที่ 3 ซึ่งไม่ได้รับการประกันตัวในชั้นฝากขัง ฐานร่วมกันสมคบฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ซึ่งครบกำหนดฝากขังวันสุดท้าย คณะทำงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ได้มีความเห็นสั่งฟ้องนายนพรัตน์ และอดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ ฐานร่วมกันสมคบฟอกเงิน แต่เนื่องจากนายนพรัตน์ ซึ่งหลบหนีระหว่างชั้นสอบสวนพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไว้แล้ว ดังนั้นอัยการจึงแจ้งให้พนักงานสอบสวนติดตามตัวนายนพรัตน์ มายื่นฟ้องภายในอายุความ 20 ปี นับจากวันเกิดเหตุ ซึ่งจะครบกำหนด วันที่ 21 ม.ค.2579

ส่วนอดีตพระครูกิตติ ที่อัยการได้ยื่นสำนวนฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ

สำหรับ นายฉัตรชัย ซึ่งขณะเกิดเหตุมีตำแหน่ง ผอ.พศ.นั้น คณะทำงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอให้ฟ้องโดยขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างที่อัยการส่งความเห็นดังกล่าวกลับไปให้ ผบ.ตร. เพื่อทำความเห็นตามขั้นตอนกฎหมายว่าจะมีความเห็นตรงกันหรือเห็นแย้งกับคำสั่งคดีของอัยการ ซึ่งหาก ผบ.ตร. เห็นแย้งก็จะต้องส่งสำนวนและความเห็นนั้นกลับมาให้อัยการสูงสุด(อสส.) พิจารณาชี้ขาดว่าจะฟ้องนายฉัตรชันหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพนักงานอัยการโจทก์ยื่นฟ้องอดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันสมคบฟอกเงิน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯแล้ว ศาลได้ประทับรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อท.38/2561 โดยศาลได้สอบคำให้การจำเลยในเบื้องต้นแล้ว จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจหลักฐานในคดีอีกครั้งในวันที่ 19 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ญาติของอดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 700,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวในชั้นพิจารณาคดี ขณะที่ศาลพิจารณาแล้วได้กำหนดวงเงินเพื่อใช้ยื่นเป็นหลักทรัพย์จำนวน 1.5 ล้านบาท กระทั่งหมดเวลาทำการเวลา 16.30 น. ไม่ปรากฏว่า มีญาติของจำเลยนำหลักทรัพย์จำนวน 1.5 ล้านบาท มายื่นขอปล่อยชั่วคราวแต่อย่างใด ดังนั้นอดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ” จำเลย จึงต้องถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป

สำนักข่าววิหคนิวส์