คืบหน้าสมาชิกสภาเทศบาล สุดกร่าง ชกชาวบ้านเมื่อถูกทวงถามงบน้ำท่วมไม่ทั่วถึง จังหวัดเต้นเตรียมตั้งกรรมการสอบพฤติกรรมไม่เหมาะสม ส่วนงบน้ำท่วมเอ็กซเรย์ใหม่อย่างละเอียดว่ามีตกค้างอีกหรือไม่เปิดกว้างให้ชาวบ้านตรวจสอบได้ที่จังหวัด
จากกรณีเกิดเหตุการณ์ สท.เทศบาลตำบลท่าชนะ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานีชกต่อยชาวบ้านเมื่อถูกทวงถามถึงเรื่องงบช่วยเหลือน้ำท่วมไม่ทั่วถึงและไม่โปร่งใสที่อาคารอเนกประสงค์เทศบาลตำบลท่าชนะ ขณะที่ชาวบ้านในตำบลท่าชนะกว่า 300 คนกำลังเข้าคิวรอรับเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อต้นปีนี้ โดยเหตุชกต่อยเกิดขึ้นเมื่อวานที่ผ่านมา(30 มิ.ย.60 ) จนเป็นข่าวครึกโครมนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ ( 1 ก.ค.60 )ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายศุภวัชร ศักดา รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายอวยชัย อินทร์นาค ผวจ. เปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างมาก ทำให้ภาพลักษณ์ของจังหวัดเสียหาย ที่ทาง สท.กระทำการดังกล่าวกับชาวบ้าน ทั้งนี้ด้วยอำนาจหน้าที่ของเทศบาลพิจารณาว่าความประพฤติในการกระทำ ทำให้เสื่อมเสีย ทำให้สมาชิกภาพผู้นั้นสิ้นสุดลงหรือไม่ตามมาตรา 49 (7) ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 โดยให้ทางเทศบาลสอบสวนรายละเอียดหาสาเหตุจริงๆว่าเกิดจากอะไร ทางจังหวัดจะลงไปกำกับดูแลอีกทีหนึ่ง โดยให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย
อย่างไรก็ตามสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับงบประมาณที่จัดสรรลงมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมทางจังหวัดจะทำการเอ็กซเรย์อย่างละเอียดว่ายังมีตกค้างอีกหรือไม่ และพื้นที่ใดมีปัญหาบ้าง อย่างไรก็ตามหากชาวบ้านไม่ได้รับความช่วยเหลือหรือมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมให้ไปตรวจสอบรายละเอียดที่จังหวัดได้ตลอดเวลา ว่ามีชื่อตกหล่นหรือไม่
ส่วนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอำเภอท่าชนะ ตามที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เกิดภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่อำเภอท่าชนะ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2559 – 31 มกราคม 2560 ซึ่งทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉินเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2559 โดยครั้งที่ 1 ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2556 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2559 จำนวน 646 ครอบครัว เป็นเงิน 3,175,670 บาท และครั้งที่ 2 ผู้ประสบภัยที่ ตกหล่นยังไม่ได้รับความช่วยเหลืออีกจำนวน 896 ครอบครัว เป็นเงิน 3,145,500 บาท ซึ่งที่ประชุมมีมติให้เสนอคณะกรรม ก.ช.ภ.จ.พิจารณาช่วยเหลือโดยใช้เงินทดรองราชการในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากเงิน ทดรองราชการในอำนาจของนายอำเภอได้ใช้จ่ายไปหมดแล้ว
จากนั้นจังหวัดสุราษฎร์ธานีขอขยายเวลาการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ด้านการดำรงชีพของอำเภอท่าชนะ จำนวน 896 ครอบครัว เป็นเงิน 3,145,500 บาท ส่วนกรณีนางทุเรียน สุทธิ ชาวบ้านผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งไม่มีรายชื่อในการขอรับเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย เนื่องจากได้ยื่นขอรับความช่วยเหลือต่อทางอำเภอท่าชนะเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 ซึ่งเป็นการยื่นขอรับความช่วยเหลือหลังจากทางอำเภอได้ส่งเรื่องเพื่อเข้าประชุม ก.ช.ภ.จ.แล้ว จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ประสานอำเภอท่าชนะเพื่อให้การให้การช่วยเหลือ นางทุเรียน สุทธิ พร้อมผู้ประสบภัยรายอื่น ๆ ที่ตกค้างเพื่อพิจารณาประสานกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อขอขยายระยะเวลาในการให้ความช่วยเหลือต่อไป
ทั้งนี้ระเบียบและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือ จ่ายเงินให้แต่ละครอบครัวจึงอาจมีจำนวนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและความเสียหายและสมาชิกของแต่ละครอบครัวมิได้เกิดจากสภาพพื้นที่ เช่น กรณีเครื่องมือประกอบอาชีพได้รับความเสียหาย ระเบียบฯและหลักเกณฑ์ พิจารณาให้ความช่วยเหลือเป็นครอบครัว ครอบครัวละไม่เกิน 11,000 บาท ไม่ว่าครอบครัวนั้นจะมีสมาชิกกี่คนก็ตาม เช่น ครอบครัวทีมีสมาชิก 3 คน ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือตามมูลค่าของเครื่องมือประกอบอาชีพที่เสียหายจริง แต่ไม่เกิน 11,000 บาทต่อครอบครัว เช่นเดียวกับครอบครัวที่มีสมาชิก 10 คน กรณีเครื่องนุ่งห่มได้รับความเสียหาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ พิจารณาให้ความช่วยเหลือเป็น รายบุคคล รายละไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งอาจจะเป็น 300หรือ 500 บาทขึ้นอยู่กับความเสียหายที่แท้จริง เช่นครอบครัวทีมีสมาชิก 3 คน ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือไม่เกิน 3,000 บาท สำหรับ ครอบครัวที่มีสมาชิก 10 คน ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือไม่เกิน 10,000 บาทดังนั้นการจ่ายเงินให้แต่ละครอบครัวจึงอาจจะมีจำนวนไม่เท่ากันได้ ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงความเสียหายและสมาชิกของแต่ละครอบครัว มิได้เกิดจากสภาพพื้นที่ เช่น บ้านหลังแรกหรือบ้านหลังสุดท้าย หรือบ้านที่อยู่ตรงกลางแต่อย่างใด