ข่าวประจำวัน » #แจ้งข้อหาหนัก !! 4พระชั้นผู้ใหญ่ ทั้งเลขาเจ้าคณะหนกลาง-เจ้าคณะจังหวัด เอี่ยวเงินทอนวัด

#แจ้งข้อหาหนัก !! 4พระชั้นผู้ใหญ่ ทั้งเลขาเจ้าคณะหนกลาง-เจ้าคณะจังหวัด เอี่ยวเงินทอนวัด

26 September 2017
756   0

ปปป.จัดหนัก ทำหนังสือถึง “มหาเถร” เรียกพระ 4 รูปรับข้อหาทุจริตเงินทอนวัด ตะลึง! มีแต่ระดับพระชั้นผู้ใหญ่ ทั้ง “เลขาฯสมเด็จพระพุทธชินวงศ์-เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี-เจ้าคณะอำเภอ” พร้อมเจ้าอาวาสวัดดัง เผยเจอข้อหาหนัก 3 กระทง ละเว้นหน้าที่-เบียดบังทรัย์-สนับสนุนทำความผิด ขณะที่ “พระเทพเสนาบดี” เจอพ่วงข้อหาปลอมเอกสารเพิ่มอีก 1 คดี

แนวหน้า – พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ธนกุล รอง ผบก.ปปป.เปิดเผยความคืบหน้าการแจ้งข้อกล่าวหาจากกรณีทุจริตงบประมาณบูรณปฏิสังขรณ์วัด หรือคดีเงินทอนวัด ซึ่งมีผู้ต้องหาจำนวน 19 ราย โดยในจำนวนนี้มีพระสงฆ์รวมอยู่ด้วยจำนวน 4 รูปว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการออกหนังสือเชิญพระสงฆ์ทั้ง 4 รูปมารับข้อกล่าวหาแล้ว ประกอบด้วย พระราชรัตนมุนี (บุญเทียม มุสุ หรือบุญเทียม ญานินโท) เลขาฯสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะหนกลาง ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดพิชยญาติการามฯ, พระเทพเสนาบดี (พระราชพุทธิวราภรณ์) เจ้าอาวาสวัดกวิศรารามฯ และเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี, พระครูวิสุทธิวัฒนกิจ (อุดม สุระกาพย์) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชสิทธารามฯ และพระครูกิตติพัชรคุณ เจ้าอาวาสวัดลาดแค อำเภอชนแดน และเจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์

โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 147 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจหน้าที่เบียดบังทรัพย์เป็นของตนเอง, มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมาตรา 68 ฐานให้ความสะดวกหรือสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิด นอกจากนี้ ในส่วนของพระเทพเสนาบดี ยังเตรียมแจ้งข้อหาตามมาตรา 162 ฐานปลอมแปลงเอกสารทางการราชอีก 1 ข้อหา โดย ปปป. ได้ส่งหนังสือไปยังมหาเถรสมาคม (มส.) และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของพระทั้ง 4 รูป เรียบร้อยแล้ว

พ.ต.อ.วรายุทธ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 19 คน ปัจจุบันได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 6 คน คือ นายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.พศ., นายฉัตรชัย ชูเชื้อ ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อดีตผู้อำนวยการกองพุทธศาสนถาน, นายพยงค์ สีเหลือง อดีตนายช่างโยธา ชำนาญงาน กองพุทธศาสนสถาน, นายณรงค์เดช ชัยเนตร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) สิงห์บุรี ซึ่งเป็นอดีต ผอ.กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา, นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี นักวิชาการศาสนา กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา และ นางณัฐฐาวดี ตันตยาวิสารสุทธิ นักวิชาการ กลุ่มศาสนสถาน พศ.

วันเดียวกัน พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 กันยายน เวลา 13.00 น. จะนำสำนวนคดีเงินทอนวัดล็อตที่ 2 จำนวน 23 คดี มูลค่า 140 ล้านบาท ไปมอบให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับพระสงฆ์ 4 รูป ประกอบด้วย พระราชรัตนมุนี, พระเทพเสนาบดี (พระราชพุทธิวราภรณ์), พระครูวิสุทธิวัฒนกิจ (อุดม สุระกาพย์) และพระครูกิตติพัชรคุณ ซึ่งได้ประสานให้มารับข้อกล่าวหา รวมถึงผู้ต้องหาที่เหลือคนอื่นๆ นั้น แม้สุดท้ายจะไม่ยอมมารับข้อกล่าวหา ก็จะไม่กระทบสำนวน เนื่องจากเป็นการดำเนินการของตำรวจในเบื้องต้น ป.ป.ช. สามารถออกหมายเรียกและหมายจับได้ภายหลังทันที

“การดำเนินคดีกับพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้อง ยอมรับว่า ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยจะดำเนินการเท่าที่ทำได้ตามความเหมาะสม และดำเนินคดีกับพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องใน 3 ลักษณะ คือ ทางวัดแบ่งเบินงบประมาณ ทอนเงินให้กับข้าราชการและผู้ที่เกี่ยวข้อง ลักษณะที่ 2 คือ มีการโอนเงินเข้าบัญชีของพระสงฆ์ แทนที่จะโอนเข้าบัญชวัด ลักษณะที่ 3 คือ วัดของบประมาณสนับสนุนด้านการศึกษา ทั้งที่ไม่มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม” ผบก.ปปป.กล่าว

สำนักข่าววิหคนิวส์