เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 สิงหาคม ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะทนายความประจำสำนักกฎหมาย อ.อัมพร ณ ตะกั่วทุ่ง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพ.ต.อ.ภูวนาถ ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีนายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับและทนายศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เนื่องจากละเมิดคำสั่งศาลที่ให้ประกันตัว พร้อมทั้งผู้ร่วมชุมนุมรายอื่น ที่กระทำการขัดพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) การชุมนุมสาธารณะ จากกรณีชุมนุมที่ข่วงประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม หรือ 2 วันที่ผ่านมา ซึ่ง พ.ต.อ.ภูวนาท ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ ก่อนนำตัวนายอภิวัฒน์ ไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำประกอบสำนวนคดี โดยใช้เวลากว่า1 ชั่วโมง

นายอภิวัฒน์ กล่าวว่า ที่มาแจ้งความเนื่องจาก นายอานนท์ มาร่วมขึ้นเวทีปราศรัยกับแกนนำนักศึกษาที่ข่วงท่าแพ หลังได้รับการประกันตัวมาจากศาลที่กรุงเทพฯ ในคดีการชุมนุม เท่ากับเป็นการละเมิดคำสั่งศาลโดยตรง ซึ่งศาลได้เมตตาให้ประกันตัวแล้ว แต่ยังมากระทำผิดซ้ำ นอกจากนี้ยังแจ้งความเกี่ยวกับกรณีการหมิ่นสถาบัน พร้อมนำหลักฐานเป็นภาพวิดีโอ ที่นายอานนท์ ขึ้นปราศรัย ซึ่งมีคำพูด ประโยคที่เข้าข่ายดูหมิ่นเบื้องสูง ผิด มาตรา 112 ทั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระกรุณาธิคุณรับสั่งให้ละเว้นการดำเนินคดีในมาตรานี้ แต่ทำไมนายอานนท์ ถึงยังไม่สำนึก และยังเดินหน้ากล่าวโทษสถาบันที่เคารพของชาวไทยอยู่

“ในฐานะคนไทย ที่มีใจรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของประเทศ ที่ที่คนไทยต้องเชิดชูไว้บนฟ้า ยอมไม่ได้ที่มีผู้มากล่าวหาและจาบจ้วงสถาบันหลักของชาติ จึงต้องมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีดังกล่าว ซึ่งกระทำในนามส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมือง และรัฐบาลอย่างใด” นายอภิวัฒน์ กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ภูวนาท กล่าวหลังได้รับเรื่องดังกล่าว เพื่อดำเนินคดีว่า ได้รับหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว พร้อมกับหลักฐานที่ ผู้มาแจ้งความได้มอบไว้กับเจ้าหน้าที่ จากนี้ต้องนำหลักฐานไปตรวจสอบข้อมูล ว่าเข้าข่ายกระทำผิดอย่างไรบ้าง ส่วนการชุมนุมที่ผ่านมา มีการดำเนินคดีกับแกนนำนักศึกษา รวม 5 รายแล้ว ซึ่งต้องตรวจสอบว่าการที่นายอานนท์ มาร่วมชุมนุมและปราศรัย ที่ข่วงท่าแพ มีการเชื่อมโยงกับกลุ่มนักศึกษาดังกล่าวอย่างไรบ้าง ก่อนสรุปสำนวนคดี เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป