วันนี้ (1 ก.ย.) เวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผบก.ปอท. ผ่านกองอำนวยการ บก.ปอท. ให้ตรวจสอบรายได้ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ รวมถึงแจ้งความเอาผิดเฟซบุ๊กประเทศไทย และนายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือเพนกวิน ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
นายสนธิญากล่าวว่า ต้องการให้ตำรวจ ปอท.ตรวจสอบรายได้ของเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ยูทูป และทวิตเตอร์ ในฐานะผู้ให้บริการแฟลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ในประเทศไทย ว่ามีการชำระภาษีให้กับประเทศตามกฎหมายหรือไม่ รวมถึงแจ้งความเอาผิดเฟซบุ๊กประเทศไทยตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 15 “ผู้ให้บริการผู้ใดให้ความร่วมมือ ยินยอม หรือรู้เห็นเป็นใจให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา 14 ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน” ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดตามมาตรา 14 กรณีเป็นผู้ให้บริการ และแจ้งความนายพริษฐ์ ในฐานะผู้ใช้บริการ จากการโพสต์ข้อเรียกร้องปฏิรูป 10 ข้อ โดยเฟซบุ๊กไม่ได้ยับยั้งการเข้าถึงโพสต์ดังกล่าว
นายสนธิญากล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังต้องการให้เชิญผู้ช่วยศาสตราจารย์นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล มาสอบถามถึงความน่าเชื่อถือของโพลวิจัยข้อมูลเรื่องจำนวนผู้ใช้โซเชียลมีเดียในการเคลื่อนไหวทางการเมืองไทย ที่พบว่ามาจากคนไทยที่อยู่ในประเทศจริงๆ ประมาณ 1.3 แสนครั้ง แต่มีข้อมูลจากต่างประเทศด้วยถึง 8 ล้านครั้ง แสดงว่าที่ผ่านมาคนต่างชาติใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้มาปั่นป่วนการเมืองในประเทศไทยให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่นักเรียนนักศึกษา กระทบต่อความมั่นคงและสถาบันของไทยอย่างรุนแรง
“แม้เฟซบุ๊กให้ความสำคัญกับกฎบัตรสากล และสิทธิเสรีภาพของมนุษย์ แต่ประเทศไทยเรามีเอกราช มีกฎหมายเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ดังนั้นเฟซบุ๊กจึงต้องอยู่ภายใต้กระบวนการของกฎหมายไทย” นายสนธิญากล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับเรื่องไว้ลงในบันทึกประจำก่อนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
