#แฉเบื้องลึก สองตายายเก็บเห็ดป่าสงวน เรื่องโกหกในสังคมไทยที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่แท้คือเรื่องนี้?
คุกตายายเก็บเห็ด ที่แท้คือเรื่องนี้?
ศาลฎีกา พิพากษาจำคุก นายอุดม และนางแดง ศิริสอน คู่สามีภรรยา ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมในคดีข้อหา “บุกรุกแผ้วถางก่อสร้าง ทำไม้ ยึดถือ ครอบครอง หรือ ทำด้วยประการใดอันเป็นการเสื่อมเสียสภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต” (ไม่ใช่เก็บเห็ดนะ) มีไม้หวงห้ามเป็นไม้สัก รวมแล้ว 700 กว่าท่อน ที่ตัดไว้ในความครอบครองหวงห้าม โดยยังไม่ได้แปรรูป สรุปตัดสินให้จำคุก 5 ปี
ทั้งคู่เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการตัดไม้ทำลายป่า แล้วถูกจับกุมตัวได้ ดำเนินคดี ยอกรับข้อกล่าวหาทั้งหมดในศาลชั้นต้นและได้รับคำแนะนำให้ปฏิเสธในชั้นศาลอุทรและศาลฎีกา แต่ทนายของฝั่งจำเลย (ตา-ยายเก็บเห็ด) ต้องการจะไปยื่นเรื่องขอลื้อคดีขึ้นมาใหม่ เพื่อต้องการจะเอาผิดกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้และขอพักโทษให้กับจำเลยทั้งสอง เพราะติดคุกมา 1 ปีแล้ว ทางด้านรองอธิบดีกระทวงยุติธรรม ระบุว่า ถ้าต้องการจะรื้อคดี สามารถทำได้ แต่ต้องมีหลักฐานและต้องมีพยานหลักฐานใหม่ ศาลจึงจะสามารถสั่งรื้อคดีได้
แต่ประเด็นที่หน้าสงสัยก็คือ “ทำไม? ไม่ถึงตัวผู้บงการ หรือ ขบวนการที่เหลือ ว่ามีใครบ้าง” คำตอบก็คือ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตั้งแต่สารชั้นต้น ทำให้ไม่มีการซักทอด ศาลจึงตัดสินว่าเป็นผู้กระทำความผิด แต่แล้วทั้งคู่ก็มาดิ้นให้พ้นผิดในศาลอุทรและศาลฎีกา
มาถึงขั้นตอนของศาลอุทรบอกว่า “เก็บเห็ด” แต่คำให้การในศาลชั้นต้นบอก “ไม่มีการเก็บเห็ด” นั้นคือ เป็นการสร้างวาทกรรมให้ฟังแล้วดูน่าสงสารเพียงแค่วาทะกรรม 4 คำ คือ “ลุง – ป้า – เก็บ – เห็ด” นั่นคือเพียงแค่ 4 คำ ซึ่งคนทั่วไปพอได้ยิน “ลุงป้าเก็บเห็ด” ก็เกิดความสงสารแล้ว ไม่อยากจะอ่านเนื้อความกันแล้ว ต่างคิดกันไปต่างๆนานาว่า ลุง-ป้านั้นต้องไม่ได้ความยุติธรรมจากศาลแน่ๆ อย่างแท้จริง
สิ่งเรานี้ คือ กลยุติทางการเมือง ที่ใช้ประชาชนเป็นเหยื่อให้เกิดความแตกแยกจากเพียงแค่วาทะกรรม จนเป็นที่มาของลุงป้าเก็บเห็ด เรื่องโกหกในสังคมไทยที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่มีใครพูดความจริง !!!
ขอบคุณที่บอกต่อ ขอบคุณที่แชร์ต่อ ขอบคุณที่เล่าต่อ ขอบคุณที่ร่วมกันทำความดี เพื่อความดี พึ่งเอาชนะคำมดเท็จด้วยการพูดความจริง