เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ทางการเมือง การปกครอง ชี้ว่าเกิดเหตุโจมตีครั้งใหญ่ในโลกไซเบอร์ด้วยไวรัสเรียกค่าไถ่ ส่งผลกระทบองค์กรกว่า 75,000 แห่งใน 99 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่ อังกฤษ จีน อิตาลี และสเปน
ในขณะที่โรคอีโบร่ากลับมาระบาดหนัก ซึ่งการระบาดกว้างขวางที่สุดในประวัติศาสตร์ของโรคไวรัสอีโบลา เริ่มในประเทศกินีในเดือนธันวาคม 2556 และยังมีการเสียชีวิตอย่างสำคัญเรื่อยมาเป็นเวลาสองปี จนกำลังมีการประกาศว่ายุติในเดือนมกราคม 2559 โรคระบาดกระจุกอยู่ในหลายประเทศแอฟริกาตะวันตก ได้แก่ ประเทศไลบีเรีย กินีและเซียร์ราลีโอน โดยมีการระบาดขนาดเล็กที่อื่น โรคมีอัตราตายสำคัญ โดยอัตราป่วยตายที่รายงานถึง 70%
และโดยเฉพาะ 57–59% ของผู้ป่วยที่เข้ารักษาในโรงพยาบาล[15] มีการอธิบายโรคไวรัสอีโบลาครั้งแรกในปี 2519 ในการระบาดพร้อมกันสองครั้งในเซาท์ซูดานและสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก แต่ครั้งนี้เป็นการระบาดของอีโบลาครั้งแรกในอนุทวีปแอฟริกาตะวันตก การระบาดเริ่มในกินีในเดือนธันวาคม 2556 แล้วลามไปไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน[12] เกิดการระบาดเล็กในประเทศไนจีเรียและมาลี และมีผู้ป่วยเดี่ยวในประเทศเซเนกัล สหราชอาณาจักรและซาร์ดีเนีย
ผู้ป่วยจากนอกประเทศในสหรัฐอเมริกาและสเปนนำสู่การติดเชื้อทุติยภูมิของบุคลากรทางการแพทย์ แต่มิได้แพร่ไปอีก วันที่ 14 มกราคม 2559 องค์การอนามัยโลก (WHO) และรัฐบาลที่เกี่ยวข้องรายงานผู้ป่วยต้องสงสัยรวม 28,638 คน และเสียชีวิต 11,315 คนแม้ WHO เชื่อว่าตัวเลขนี้ประเมินขนาดของการระบาดครั้งนี้ต่ำกว่าจริงมากพอควร WHO ยังเตือนว่าอาจเกิดการระบาดเล็กอีกในอนาคต และควรระมัดระวังต่อ ครั้งนี้เป็นการระบาดของอีโบลาครั้งแรกหลังจากเงียบหายไป
เทอดศักดิ์ ยังได้เตือนไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ปี 2559 แล้วว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น เพื่อมีเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจของมหาอำนาจ
สำนักข่าว Vihok news รายงาน