วันที่ 5 พ.ค.65 เฟสบุกส่วนตัว “ Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)” ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย(มปท.)ได้เผยแพร่รายการ “คุยกับลุง” EP 27
นาย สุเทพ กล่าวตอนหนึ่ง ว่า ช่วงนี้มีการโจมตีตน ทางโซเชียลมีเดียค่อนข้างมาก เหตุเพราะว่า ตนออกมาพูดจาต่อต้าน ระบอบทักษิณ ตนไม่ได้ใส่ใจ ไม่ได้เอามาเป็นอารมณ์ แต่จะเดินหน้าทำสิ่งที่เห็นว่า เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ยืนหยัดที่จะต่อสู้กับระบอบทักษิณ ที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อประเทศ ทำความเสียหาย ทำความเดือดร้อนให้กับประชาชน มาแล้ว การก่อเหตุร้าย โดยคนในระบอบทักษิณ ล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เอากำลังชายชุดดำ มาเข่นฆ่าตำรวจ ทหาร ประชาชน ยิงระเบิดใส่สถานีรถไฟฟ้าสีลม คนเจ็บคนตายรวมทั้งหมด 80-90 คน อย่างนี้ลืมไม่ได้ การเผาศาลากลาง การเผาอาคารพาณิชย์ เผาโรงหนัง เผาเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ที่มันเกิดกลางกทม. การทุจริตคดโกง ปล้นชาติ ปล้นแผ่นดิน ร้ายแรงที่สุดในระบอบทักษิณ นี่ไม่ใช่เรื่องที่มาพูดใส่ร้าย เป็นเรื่องที่พิสูจน์กันมาแล้วในศาล และต่อสู้กันตามตามกระบวนการยุติธรรม และศาลก็มีคำสั่งพิพากษา ทั้งจำทั้งปรับไปแล้ว
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า รัฐมนตรีในระบอบทักษิณ ที่ถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกเราก็ทราบกันอยู่ดีว่าใครบ้าง และที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีก็มี ส่วนที่หนีคุกก็มีเช่น นายทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ นายประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีในระบอบทักษิณ ถูกจำคุกมากที่สุด เพราะทุจริตคอร์รัปชั่น ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ที่เรียกว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ตัวการที่เคยดำรงตำแหน่งนายกฯอย่าง นายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็หนีไปเสวยสุขอยู่ต่างประเทศปล่อยให้ลูกน้องติดคุกนับสิบคน
“ วันนี้ยังแสดงอิทธิฤทธิ์ อิทธิพล ใช้โซเชียลมีเดีย ระดมให้คนต่อต้านรัฐบาลปลุกระดมให้คนรู้สึกเกลียดชังประเทศ ชักใย ทั้งบนดิน และใต้ดิน ออกมาตีปี๊บ อ้างว่าประเทศมีปัญหา คนอื่นแก้ไขไม่ได้ต้องเป็นพวกเขาเท่านั้นที่แก้ได้ ผมไม่เชื่อไม่ศรัทธาไม่เอาด้วย ผมยังรู้สึกสยดสยอง กับ สิ่งที่ระบอบทักษิณได้ทำไว้กับประเทศไทยในยุคที่พวกเขามีอำนาจ เรียกว่า ทั้งปล้น ทั้งฆ่า ทั้งเผา เรียกว่าทำมาแล้วทั้งนั้น พอได้ยินการโหมโฆษณาชวนเชื่อของคนในระบอบทักษิณว่า เขาจะเอาการเลือกตั้งครั้งต่อไปแบบแลนด์สไลด์ กลับมาเป็นรัฐบาลพรรคเดียวมีอำนาจเต็ม คับบ้านคับเมือง เหมือนที่เคยเป็นมาแล้ว ผมรับไม่ได้จริงๆ เมื่อผมแสดงตัวออกมาต่อต้านระบอบทักษิณ ก็เป็นธรรมดาที่สมุนบริวาร ของระบอบทักษิณ ก็จะออกมาแว้งกัด ผมทุกวันไม่เลิก ดาหน้ากันมาเลย ผมไม่ถอย ยินดีที่จะยืนหยัดต่อสู้ต่อไป” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ระบอบทักษิณมีสมุนบริวารที่ เป็นพวกที่เห็นแก่ตัวทั้งนั้นเอาประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเลย พอพี่น้องประชาชนลืมเรื่องราวชั่วร้าย ที่พวกเขาเคยก่อไว้ ก็ออกมาแต่งเรื่องใหม่เล่านิทานใหม่ขายฝันใหม่ หลอกประชาชนอีก ตอนนี้ ก็กำลังโหมกำลังสร้างกระแสเขย่าเก้าอี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ อย่างเอาเป็นเอาตาย ตัวแสดงส่วนใหญ่ก็อยู่ในระบอบ ทักษิณทั้งนั้น ปฏิบัติการปล่อยข่าวสร้างกระแสใส่ร้าย ทำลายเครดิตทุกวันเห็นว่า จะอภิปรายไม่ไว้วางใจล้มพล.อ.ประยุทธ์
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า มีข่าวว่า มีการวิ่งเต้นติดต่อแจกเงิน แจกกล้วย ล้มพล.อ.ประยุทธ์ ในสภาฯการอภิปรายของฝ่ายค้าน คนของระบอบทักษิณ ได้ใช้ลีลาโวหาร ใช้ความหยาบคาย อภิปรายโจมตีพล.อ.ประยุทธ์ เนื้อหาสาระไม่มีเท่าไร ตนเคยเป็นส.ส.ในสภาฯ มาหลายสิบปี เป็นฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เคยเป็นรัฐบาลอภิปรายสู้กับฝ่ายค้านมาก็หลายครั้ง แต่ไม่เคยเอาความเท็จมาอภิปรายในสภาฯ เสียงในสภาฯไม่สำคัญเท่ากับเสียงประชาชน นอกสภา แพ้ชนะในสภาเป็นเรื่องหนึ่ง แต่แพ้ชนะในใจประชาชนสำคัญกว่า ยิ่งใหญ่กว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ สู้ได้ไม่ต้องในลีลาโวหารเอาความจริงมา พูดตาม พูดตามสไตล์พล.อ.ประยุทธ์ ผลงานดีๆมีเยอะพูดเรื่องผลงานที่เป็นภาพรวมใหญ่ของประเทศก็ได้ เช่น เรื่องเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( EEC )
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จะทำให้เศรษฐกิจ BCG (เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว) ขยายตัวได้รวดเร็วทันสมัย ทันโลก ตามยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลกำหนดไว้ การกำหนดเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จะทำให้การพัฒนาประเทศเป็นไปอย่างต่อเนื่อง มีทิศทางที่แน่นอน โดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งในอนาคตอย่างต่อเนื่องเช่นยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิก เทคโนโลยี ดิจิตัล มีนักการเมืองหลายคนวิจารณ์ว่ามาเห็นด้วยกับกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC) และยุทธศาสตร์ เศรษฐกิจ BCG แต่ตนชื่นชมสนับสนุนเพราะยุทธศาสตร์ ที่พล.อ.ประยุทธ์วางไว้จะทำให้เกิดการลงทุนขนานใหญ่ เกิดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การสร้างมืออาชีพ ในทุกระดับตั้งแต่ระดับมันสมอง เป็นแพทย์ เป็นวิศวกร นักวิจัย ลงไปถึง ระดับโฟร์แมน หรือแรงงานทีมมีคุณภาพ
สมัยก่อนพวกเราเคยเห็นพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ทำโครงการอิสเทิร์น ซีบอร์ด พัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันออกเป็นโครงการใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ ความเป็นผู้นำของพล.อ.เปรม วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ ทำโครงการ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ทำอย่างเอาจริงเอาจัง นี่จะเป็นการพลิกโฉมประเทศครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง มีสนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินใหญ่รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาคคะวันออก มีการเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง ด้วยรถไฟความเร็วสูง เป็นการพัฒนาทางด้านคมนาคมครั้งสำคัญ ทำไปพร้อมๆกับโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่เชื่อมไปลาวกับจีน
ในด้านความร่วมมือกับต่างประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ ก็คุยได้ อย่างไปซาอุดิอาระเบีย แก้ปัญหาที่ค้างมา 30 ปีได้ สร้างความสัมพันธ์ที่ดี จะช่วยเราเรื่องการแก้ปัญหาเรื่องน้ำมันที่สำคัญ คือจะช่วยให้สามารถส่งแรงงานไปทำงานในตะวันออกกลางได้อีกเป็นจำนวนมาก 2-3วันที่ผ่านมา นายกฯญี่ปุ่น เดินทางมาเยือนไทยมาเจรจาความสัมพันธ์ ได้ผลดีหลายเรื่อง เช่น การลงทุนเรื่องด้านยานยนต์ไฟฟ้าการผลิตยาและเวชภัณฑ์ พัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน พลังงาน การท่องเที่ยว การค้า เป็นการตกลงในลักษณะที่จะเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจกัน จะมีความหมาย ต่ออนาคตของประเทศไทยที่สำคัญ
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ผลงานที่สำคัญที่สุดที่ พล.อ.ประยุทธ์ ควรจะเอามาพูดอีกเรื่องคือ เรื่องการดูแลครอบครัวของประชาชน ในภาคเกษตรสมัยรัฐบาลประยุทธ์เกษตรกร ทุกสาขามีรายได้ดี เพราะสินค้าเกษตร ได้รับการดูแล เรื่องการแก้ไขปัญหาความยากจน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำได้ดี ดูแลประชาชนได้อย่างเป็นระบบ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องรายได้ต่อครอบครัว รวมถึงเรื่องสุขภาพอนามัย การศึกษา การได้รับบริการจากรัฐ เร็วๆนี้ได้ยินว่ารัฐบาลประกาศว่าเป้าหมายว่า จะดูแลครอบครัวกว่า 6 แสนครัวเรือน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น มีโครงการที่เรียกว่า ยาทันใจ ช่วยเหลือเยียวยาเช่นกัน ในยามที่เดือดร้อน เช่นการประกันราคาพืชผลทางการเกษตร โครงการคนละครึ่ง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนเป็นเรื่องที่พูดได้
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ในเรื่องการศึกษา รัฐบาลประกาศใช้การรวมพลังปัญญาชน เอาปัญญา เอาความรู้ เอานวัตกรรม เอาภูมิปัญหาคนไทยมาช่วยกันพัฒนาประเทศ อย่างเป็นระบบมอบหมายให้ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ( อว.) มุ่งเป้าขับเคลื่อนประเทศ อาศัยพลังของนักศึกษาและอาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ มาร่วมกันขับเคลื่อนประเทศ รวมพลังกันคิดอ่าน อย่างทันสมัย ความเจริญเอาองค์ความรู้งานวิจัยและนวัตกรรมลงไปช่วยเหลือประชาชนอย่างจริงจัง
“ การที่ผมออกมาต่อต้านระบบอบทักษิณ เพราะผมไม่ต้องการเห็นระบอบทักษิณกลับมามีอำนาจ มาทำร้ายประเทศอีก การเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ในคราวนี้ ผมถึงเชียร์ คุณสกลธีร เพราะไม่อยากเห็นคนที่เคยรับใช้ หรือ เคยได้ประโยชน์จากระบอบทักษิณ เข้ามามีอำนาจในกทม.ไม่ต้องการให้เขาเข้ามาปูฐานทางการเมืองเพื่อรองรับระบอบทักษิณกลับมา ผมเลือกที่จะเชียร์ สกลธี เพราะเชียร์ได้สนิทใจ สกลธี ไม่ใช่พวกทักษิณ ไม่ใช่คนที่เคยได้รับประโยชน์จากระบอบทักษิณมาก่อน สกลธี ไม่ใช่กากเดนของระบอบทักษิณ และเชื่อมั่นว่า สกลธี จะไม่รับใช้ระบอบทักษิณแน่นอน ”