สำนักข่าวอิศรา แฉ มี จนท.รัฐทั้ง 139 เอี่ยวโกงข้าวรัฐ ป.ป.ท.เผยคดีคืบหน้า 70% พบเสียหาย 1.4 แสน ล.บ.
—————————————————————-
นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกัน
และ ปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ป.ป.ท.ได้มอบหมายให้ พ.ท.กรทิพย์
ดาโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.
ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับ และ ประสานการดำเนินงานการไต่ส่วน
ข้อเท็จจริงคดีทุจริตการเก็บข้าวในคลังสินค้าของรัฐ พร้อมคณะ จนท.
ที่เกี่ยวข้องติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีทุจริตดังกล่าวของ
สำนักงาน ป.ป.ท.เขตพื้นที่ 7 โดยมีการเชิญผู้ถูกกล่าวหามารับทราบ
ข้อกล่าวหาจำนวน 5 คดี ทั้งนี้ทางสำนักงาน ป.ป.ท.รับสำนวนการสอบคดี
ทุจริตการเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้าของรัฐที่ส่งมาจากพนักงานสอบสวนในพื้นที่ต่างๆ รวม 36 จังหวัด และคณะกรรมการ ป.ป.ท.มีมติดำเนินการไต่สวน
ข้อเท็จจริงจำนวน 990 คดี รวมมูลค่าความเสียหาย 147,259,065,108 บ.
รวมปริมาณข้าวที่เสียหาย 41,551,117 ตัน ได้แก่
1.องค์การคลังสินค้า อคส.จำนวน 720 คดี มูลค่าความเสียหาย 119,985,921,640 บ.มีปริมาณข้าวได้รับความเสียหายจำนวน 39,108,092 ตัน
2.องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร อ.ต.ก.จำนวน 270 คดี มูลค่าความเสียหาย 27,273,143,468 บ.มีปริมาณข้าวได้รับความเสียหายจำนวน 2,443,024 ตัน
จำนวนผู้ถูกกล่าวหาที่เป็น จนท.ของรัฐ รวมจำนวน 139 คน
เป็น จนท.อคส.จำนวน 93 คน จนท.อตก.46 คน
ทางคณะกรรมการ ป.ป.ท.เริ่มดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีเหล่านี้ตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค.2560 โดยคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ประกอบด้วย จนท.ของสำนักงาน ป.ป.ท.และ จนท.ตร.แห่งชาติ ที่ร่วมกันดำเนินการภาพ
รวมความคืบหน้าของการดำเนินคดีในแต่ละคดีประมาณร้อยละ 70 ขณะนี้
อยู่ระหว่างการแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา จำนวน 211 คดี
โดยในเดือน ส.ค.2560 เป็นต้นไป คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ จะเริ่มเสนอรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงที่ดำเนินการเสร็จสิ้นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ท.
เพื่อพิจารณาชี้มูลความผิดต่อไป
เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ท.ชี้มูลความผิดแล้ว หากเป็นมูลความผิดทางอาญา
จะส่งพนักงานอัยการเพื่อพิจารณาฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริต และ ประพฤติ
มิชอบกลาง หรือภาคต่างๆ และ กรณีที่เป็นความผิดทางวินัยก็จะส่งเรื่องนี้
ให้ผู้บังคับบัญชาลงโทษทางวินัยด้วย อนึงในการดำเนินการมาตรการทาง
วินัย และ มาตรการทางปกครองตามคำสั่ง คสช.ที่ 69/2557 นั้น ทาง
สำนักงาน ป.ป.ท.ได้แจ้งเรื่องไปยัง อคส.และ อ.ก.ต.ให้พิจารณาดำเนินการ
ตามอำนาจหน้าที่แล้ว ขณะนี้ อคส.ได้ดำเนินการทางปกครองปรับย้าย จนท.
ที่เป็นผู้ถูกกล่าวหาเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ประจำ อคส.ด้วยแล้ว ทั้งนี้ได้มีการ
ส่งเรื่องให้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ป.ป.ง.
ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อีกทางหนึ่งด้วย.