เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2565 นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง “แยกกันเดินแล้วรวมกันตี หรือรวมกันตีแล้วแยกกันเดิน” ระบุข้อความว่า สถานการณ์ทางการเมืองของผู้มีอำนาจเป็นการแยกกันเดินแล้วรวมกันตี หรือว่ารวมกันตีแล้วแยกกันเดิน จะเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ เป็นการแยกกันเดิน แยกคน แยกพรรค ในที่สุดก็จะแยกอำนาจกัน ทั้งหมดเป็นบทประวัติศาสตร์ทางการเมืองทุกยุคทุกสมัย
นายวันชัย ระบุต่อว่า อำนาจทำให้คนแตกกัน แยกกัน แม้จะร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกัน เมื่ออำนาจไม่ลงตัวก็ต้องแยกกันเดิน และผู้มีอำนาจแต่ละคนก็มีบริวารเครือในสังกัดของตน ทั้งแนวคิด วิธีการ เป้าหมายก็ไม่เหมือนกัน การที่พี่น้องผู้มีอำนาจแยกกันเดินจึงเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ใครจะเล็กใครจะใหญ่กว่ากันเท่านั้น แต่ที่จะเป็นพลังแข็งแกร่งเหมือนเดิมคงเป็นไปไม่ได้
นายวันชัย ระบุว่า ยิ่งแยกยิ่งเล็ก ไม่ว่าจะซีกใดซีกหนึ่งก็ต้องเล็กลงแน่นอน เพราะส.ส.มาจากพรรคเดียวกันกลุ่มเดียวกัน คงไม่สามารถจะไปดึงจากกลุ่มอื่นมาได้แน่ เมื่อแยกกันอย่างนี้แล้ว เชื่อเหลือเกินว่าคงไปคนละทิศคนละทาง ไม่ใช่แนวทางทางการเมืองแบบเก่าที่ว่ามีคะแนนตุนอยู่ในกระเป๋าจะเอามาใช้เหมือนเดิมก็คงจะไม่ได้
“อำนาจเปลี่ยน คนเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน ถ้ายังใช้วิธีแบบเดิมการเมืองจะเกิดวิกฤต ทั้งในสภาและนอกสภา คอยดูเถอะความชอบธรรมทางการเมืองจะถูกชูเป็นประเด็นใหญ่หลังการเลือกตั้ง ถามว่าจะยุบสภากันเมื่อไหร่ ก็ขอบอกว่าจะยุบในวันนี้หรือยุบในเดือนมี.ค. 66 ก็มีค่าเท่ากัน เพราะมีเวลาอยู่แค่ 3 เดือนเท่านั้น อยู่ต่อไปจะทำให้ได้คะแนนมากขึ้นกว่านี้มั้ย ดูไปแล้วคงจะยาก ถ้าจะได้ก็คงจะได้มา 8 ปีกว่าแล้ว” นายวันชัย ระบุ
นายวันชัย ระบุอีกว่า ช่วง 2-3 เดือนต่อแต่นี้ ถือว่าเป็นความเสี่ยงทางการเมืองมากกว่า มีแค่เสมอตัวกับอาจพลาดได้ สุ่มเสี่ยงกับช่วงปลายสมัยใกล้หมดอำนาจ เชื่อว่าจัดทัพเลือกตั้งเสร็จแล้ว พร้อมแล้วมั่นใจว่าได้เปรียบทางการเมือง สู้เขาได้แน่ ก็คงยุบสภาในช่วงนั้น ความจริงรู้จักพอ ก่อสุขทุกสถาน เป็นคำสอนของพระอาจารย์โชคดี วัดไก่เตี้ย