พวกเรามักไม่ค่อยทราบเรื่องของตัวบทกฏหมายของแต่ละประเทศที่เราเดินทางไปท่องเที่ยวเท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากได้รู้ไว้ล่วงหน้าก็คงไม่เสียหาย เพื่อป้องกันเวลาไปพลั้งเผลอทำผิดพลาดขึ้นมา นอกจากนี้ ข้อห้ามหรือกฎหมายบางข้อยังเรียกได้ว่าแปลกประหลาด จนเราไม่อยากจะเชื่อว่ามันมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ Likeสาระ ในวันนี้จะพาไปดู 9 เรื่องราวอันสุดแสนธรรมดาที่กลายเป็นข้อห้ามกระทำโดยเด็ดขาด ตามกฎหมายที่บัญญัติไว้ของแต่ละประเทศ
1.สหราชอาณาจักร – ห้ามกินขนมปังบิสกิตในวันคริสมาสต์
ในปี 1644 โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ ห้ามผู้คนในยุคนั้นเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส เพราะเขาเชื่อว่ามันเป็นเรื่องผิดศีลธรรม สิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฉลองวันคริสต์มาสจึงถูกสั่งห้ามไปโดยปริยาย รวมถึงขนมหวานและขนมปังบิสกิต
น่าแปลกใจที่ทุกวันนี้ ยังไม่มีบทบัญญัติที่ล้มเลิกกฎหมายฉบับดังกล่าวของครอมเวลล์ ชาวอังกฤษทุกคนจึงทำความผิดในวันคริสต์มาส ด้วยการกินขนมปังบิสกิตอย่างเอร็ดอร่อยกันทุกปี แค่พวกเขาไม่แคร์…ก็เท่านั้น
2.สหราชอาณาจักร – ห้ามถูกตัววาฬอีกหนึ่งกฎหมายสุดแปลกของดินแดนเมืองผู้ดี วาฬ โลมา และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกตัวในท้องทะเลในรัศมี 3 ไมล์ทะเลนอกชายฝั่งอังกฤษ ถือเป็นสมบัติส่วนพระองค์ของสมเด็จพระราชินี พวกคุณไม่มีสิทธิ์แตะต้องพวกมันอย่างเด็ดขาด อย่างคิดลองเชียวนะ
3.จีน – ห้ามช่วยคนตกน้ำ
เป็นอีกหนึ่งกฎหมายสุดแปลกจากประเทศจีน ที่ระบุชัดเจนว่า การช่วยคนกำลังจะจมน้ำถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
ว่ากันว่า กฎหมายข้อนี้เกี่ยวข้องกับหลักปรัชญาของชาวตะวันออก ที่ว่าเราไม่ควรไปขัดขวางชะตาของผู้คน อย่างไรก็ดี พวกมองโลกในแง่ร้ายบางกลุ่มเชื่อว่า เจ้าหน้าที่ทางการจีนแค่หวังจะใช้ประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้ในการช่วยควบคุมจำนวนประชากรในประเทศเท่านั้น
4.ฝรั่งเศส – ห้ามจูบกันในสถานีรถไฟ
กฎหมายฉบับนี้บังคับใช้ทั้งในฝรั่งเศสและบางพื้นที่ในอังกฤษ ที่คู่รักจะไม่สามารถแสดงความรักต่อกันด้วยการจูบบริเวณสถานีรถไฟได้
กฎหมายนี้เริ่มครั้งแรกในฝรั่งเศส เมื่อปี 1910 เหตุเพราะบรรดาคู่รักมัวแต่จูบอำลา ไม่ยอมขึ้นรถไฟ จนทำให้รถไฟโดยสารหลายขบวนต้องล่าช้า เจ้าหน้าที่การรถไฟจึงประกาศห้ามจูบกันบริเวณชานชาลาอย่างเด็ดขาด แต่ยังใจดี จัดพื้นที่พิเศษสำหรับจูบกัน ไว้ให้คู่รักได้แสดงความรักหวานชื่นก่อนจากลาได้
5.อิตาลี – ห้ามให้อาหารนกพิราบ
ประเทศอื่นๆ อาจเป็นเรื่องปกติในการให้ขนมปังเป็นอาหารนกพิราบตามสวนสาธารณะหรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่ในเมืองเวนิซ ประเทศอิตาลี การกระทำดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมายและมีโทษปรับ เป็นกฎหมายที่บัญญัติขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้บรรดานกพิราบ มาสร้างความเสียหายให้กับอนุสาวรีย์ที่มีความสำคัญทางสถาปัตยากรรม และรูปปั้นอันสวยงามต่างๆ ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วเมืองนั่นเอง
6.สหรัฐอเมริกา – ห้ามช็อคโกแลตรูปไข่ Kinder Surprise
Kinder Surprise ขนมช็อคโกแลตรูปไข่ของโปรดของเด็กๆ ทั่วโลก ถูกห้ามจำหน่ายทั่วสหรัฐนับตั้งแต่วันแรกที่ออกวางตำหน่าย สาเหตุเพราะตามกฎหมายสหรัฐ ห้ามไม่ให้ใส่ของเล่นเข้าไปในอาหารและของกิน เพราะเกรงว่าชิ้นส่วนเล็กๆ ในของเล่นจะติดคอเด็กๆ หรือทำให้สำลัก
ในปี 2013 สหรัฐก็ยอมให้มีการวางจำหน่ายขนมช็อคโกแลตรูปไข่นี้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศเป็นครั้งแรก แต่มีข้อบังคับว่าของเล่นที่อยู่ในไข่ดังกล่าว ต้องมีขนาดใหญ่พอและต้องประกอบเป็นชิ้นเดียว เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีชิ้นส่วนเล็กๆ หลุดออกเข้าไปติดคอหรือทำอันตรายแก่เด็กๆ
7.แคนาดา – ห้ามใช้เศษเหรียญชำระค่าสินค้า
ในแคนาดา คุณไม่อาจโกยเอาเศษเหรียญจากบ้านมาใช้ซื้อสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตได้ กฎหมายฉบับนี้ซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่ปี 1985 ห้ามไม่ให้ใช้เศษเหรียญซื้อสินค้าที่มีราคามากกว่า 10 ดอลลาร์แคนาดาขึ้นไป แต่ไม่ยักบอกเหตุผลว่าทำไม สงสัยคงกลัวเจ้าของร้านค้านับเหรียญกันจนเหนื่อยละมั้ง?
8.ซามัว – การลืมวันเกิดภรรยาถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายอย่างยิ่ง
ซามัวเป็นประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกที่มีชื่อเสียงอย่างมากจากกฎหมายสุดแปลกหลายข้อ หนึ่งในนั้นระบุชัดเจนว่า ห้ามผู้เป็นสามีลืมวันเกิดของภรรยาสุดที่รักอย่างเด็ดขาด ถ้ามีใครทำผิด ศาลมีอำนาจสั่งปรับเงินผู้เป็นสามี และมอบเงินดังกล่าวให้กับภรรยาทันที ยังไม่นับความผิดที่อาจถูกภรรยาผู้เป็นที่รักตามไปเช็คบิลต่อเป็นการส่วนตัวอีกต่างหาก
9.ญี่ปุ่น – ห้ามโชว์ลายสัก
ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญไม่ค่อยนิยมสักตามร่างกาย แม้กระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากคนที่รอยสักจะถูกมองว่ามีความเกี่ยวข้องกับแก๊งยากูซ่า ซึ่งเป็นแก๊งอาชญากรรมใหญ่ของประเทศ แม้จะไม่มีกฎหมายที่ระบุว่าห้ามมีรอยสักตามร่างกายอย่างชัดเจน แต่โรงแรมหลายแห่ง รวมถึงโรงยิม ฟิตเนส และสถานที่อาบน้ำสาธารณะ ที่เรียกว่าออนเซน ก็มีระเบียบห้ามผู้ที่มีรอยสักเข้าใช้บริการ
Cr.naewna
สำนักข่าววิหคนิวส์