ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #แม่ทัพ พปชร.อีสาน ขู่ทบทวนบทบาท หลังถูกเมินไม่มีตำแหน่งทางการเมือง

#แม่ทัพ พปชร.อีสาน ขู่ทบทวนบทบาท หลังถูกเมินไม่มีตำแหน่งทางการเมือง

17 June 2019
1010   0

“เอกราช” ประกาศทบทวนบทบาทการทำงานกับพรรคพลังประชารัฐ หลังถูกมองเป็น ส.ส.ตลาดล่าง ผู้ใหญ่ในพรรคไม่เห็นความสำคัญ ไม่ให้ความเป็นธรรมในการจัดสรรตำแหน่ง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 มิ.ย. 62 ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ ถ.ศรีจันทร์ เทศบาลนครขอนแก่น นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมแกนนำจาก จ.อุบลราชธานี แถลงข่าวความไม่เป็นธรรมในการพิจารณาจัดสรรตำแหน่งของพรรคพลังประชารัฐ

นายเอกราช กล่าวว่า ภาคอีสานมีอยู่ถึง 20 จังหวัด มีพื้นที่ที่กว้างใหญ่ในการทำงาน ช่วงการลงพื้นที่หาคะแนนเสียง สมาชิกพรรค ผู้สมัครทุกคนต่างระดมร่วมกันออกพบประประชาชน เพื่อขอคะแนนเสียงจากประชาชน สำหรับพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์ประสานงาน จ.ขอนแก่นและศูนย์ประสานงาน จ.อุบลราชธานี ทำคะแนนรวมได้ 1,364,761 คะแนน ได้ ส.ส.19 คน โดยได้ ส.ส.เขต 2 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 17 คน จึงถือว่าสร้างผลงานให้กับพรรคพลังประชารัฐเป็นอย่างมาก

“การจัดสรรทีมบริหารประเทศพมอบอำนาจให้ผู้บริหารพรรคโดยไม่ไปก้าวก่าย เพราะไม่ต้องการสร้างความหนักใจให้กับผู้บริหาร ที่ผ่านมาทางเราไม่ได้พูดหรือขอตำแหน่งใดๆ เพราะเชื่อว่าต้องได้รับการพิจารณา เนื่องจากสู้ลุยสนามเลือกตั้งมาด้วยความยากลำบากด้วยกัน จนวันนี้การจัดตั้งคณะรัฐมนตรีคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 90 มี สส.อีสานที่ได้รับการพิจารณาตำแหน่งเพียง 1 ตำแหน่งที่ นครราชสีมา รายเดียวเท่านั้นในภาคอีสาน แต่กลับไม่มีชื่อ สส.ในอีสานบนที่ได้รับการพิจารณา พวกเราถือว่าทางพรรคปล่อยให้พวกเราเดินไปอย่างโดดเดี่ยว ไม่ให้ความเป็นธรรม พวกเราควรทบทวนบทบาทในการที่จะร่วมกิจกรรมกับพรรคในอนาคต ที่สำคัญต้องการให้ทางผู้ใหญ่ผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐได้เห็นความสำคัญของคนทำงานในพื้นที่ อย่ามองเป็นสส.ตลาดล่าง สส.บ้านนอก เมื่อต้องทำงานก็สู้ลำบากด้วยกัน แต่พอได้รับตำแหน่งก็มีเพียง สส.ใน กทม.ที่เสวยสุข โดยไม่ดูแลกัน อย่างนี้ทำให้คนทำงานท้อ” นายเอกราช กล่าว

การลงพื้นที่หาเสียง รวมทั้งได้เสนอนโยบายพรรคพลังประชารัฐ แต่หากไม่มีตำแหน่งทางการบริหารทางการเมือง ทำให้นายเอกราชเชื่อว่า การทำงานของพรรคจะชะงักลง เนื่องจากตำแหน่ง ส.ส. ประจำจังหวัดนั้น ไม่สามารถพิจารณางบประมาณมาบริหารจัดการพื้นที่ ตามที่ได้หาเสียงไว้ เพราะ ส.ส. มีข้อจำกัดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 ที่ไม่มีอำนาจไปก้าวก่ายการจัดสรรงบประมาณในการจัดสรรงบประมาณ การแต่งตั้งโยกย้าย ตัวแทนที่ได้รับตำแหน่งจากอีสานเพียงคนเดียวจึงไม่เพียงพอกับการบริหารงานตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ได้อย่างทั่วถึง

“ที่ผ่านมาเราให้ตัวแทนพูดคุยกับทีมบริหารพรรค คาดว่าน่าจะเป็นปัญหาภายใน หรือเราเองเสียงไม่ดังพอ จึงไม่มีตำแหน่งให้กับ สส.อีสานตอนบน หากทางผู้บริหารปล่อยให้เราอยู่ในลักษณะนี้ เราเองต้องมาทบทวนว่าถ้าอยู่ด้วยกันแล้วขับเคลื่อนไปไม่ได้ เราอาจจะออกมาหาที่ยืนเอง ขับเคลื่อนการทำงานเองหรือไม่ เราร่วมลำบากมาแทบตาย หาคะแนนได้แต่ปาร์ตี้ลิสต์ไหลไปอยู่กับผู้หลักผู้ใหญ่ที่กรุงเทพหมด ทุกคนได้อานิสงส์ของเราไปหมดแต่ทุกคนไม่เคยเห็นหัว ทุกวันในการทำงานร่วมกันพวกเราก็มีหัวใจ สำคัญที่สุดกว่าจะปักธงได้ที่ขอนแก่นไม่ใช่เรื่องง่ายพอปักธงได้แทนที่จะขับเคลื่อนกลับกลายเป็นนิ่งและมองผ่านแบบไม่ให้ความสำคัญคนทำงานก็รู้สึกเหนื่อย” นายเอกราช กล่าว

Cr.กรุงเทพธุรกิจ

สำนักข่าววิหคนิวส์